เสี่ยหนู ลงเอง นำ ปกครอง บุกทลายผับดัง ย่าน อ้อมน้อย พบนักเที่ยว ฉี่ม่วง เพียบ

ใหญ่แค่ไหนก็ไม่รอด! อนุทินลงเอง นำ ปกครอง บุกทลายผับดัง ย่านอ้อมน้อย พบ นักเที่ยวหนีตาย อลหม่าน ตรวจพบ ฉี่ม่วง 77 ราย

เสี่ยหนูนำทีม ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกจับ ผับดังย่านอ้อมน้อย พบเปิดเกินเวลา มั่วสุมอัพยา นักเที่ยวฉี่ม่วงกว่า 77 คน หนีตายแห่ดันประตูฝ่าเจ้าหน้าที่ออกมา พนักงานร้านบอก “ผับนี้มีแต่คนเล่นยา”

เมื่อเช้ามืดของวันที่ 27 ม.ค. 67 เวลาประมาณ 02.45 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำทีมกรมการปกครอง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง, นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กว่า 30 นาย ร่วมกับ สำนักงาน ปปส. ภาค 7 ฝ่ายปกครองจังหวัดสมุทรสาคร ฝ่ายปกครองอำเภอกระทุ่มแบน และ ผกก.สภ.กระทุ่มแบน เข้าจับกุมสถานบริการละเมิดกฎหมาย เปิดเกินเวลา ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา หนำซ้ำยังยินยอมให้นักเที่ยวใช้สารเสพติดภายในสถานบริการ

การลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติการนี้ กรมการปกครองได้รับเรื่องร้องเรียนว่า ในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มีสถานบริการแห่งหนึ่ง มีการปล่อยปละละเลยให้นักเที่ยวใช้สารเสพติดภายในสถานบริการ และยังแสดงดนตรีส่งเสียงดังรบกวนชุมชน เปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และอวดอ้างว่ามีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ให้การสนับสนุน จึงขอให้กรมการปกครองทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว

ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมปกครองจึงส่งสายลับเข้าสืบสวนข้อเท็จจริงต่อเนื่อง โดยพบว่าสถานบริการดังกล่าว มีการกระทำผิดจริงตามข้อร้องเรียน ชุดสายลับจึงได้แจ้งไปยังชุดจับกุม เพื่อเปิดปฏิบัติการจู่โจมจับกุมทันที

เมื่อชุดจับกุมเข้าไปถึงภายในผับ พบนักเที่ยวจำนวนกว่า 300 คน กำลังสนุกสนาน เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัว นักเที่ยวต่างแตกตื่น โยนยาเสพติดทิ้งเกลื่อนกลาดเต็มพื้น และพยายามหลบหนี โดยกรูกันดันประตูหลบหนีออกไปจำนวนมาก เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองได้ควบคุมนักเที่ยวที่เหลือไว้ได้จำนวนหนึ่ง และประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ แล้วจึงให้เจ้าพนักงาน ปปส. ภาค 7 ทำการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของนักเที่ยวทุกราย

พบผู้มีสารเสพติดในปัสสาวะ 77 ราย แยกเป็น

  • ชาย 38 ราย
  • หญิง 39 ราย
    ทั้งนี้ มีพนักงานของทางร้านรายหนึ่ง เปิดเผยกับสายลับ ว่า “ผับนี้มีแต่คนเล่นยา”

พนักงานฝ่ายปกครอง จึงได้จับกุมตัวเจ้าของร้าน และร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด ดังนี้

  1. เปิดสถานบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด
  2. ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในสถานบริการ
  3. ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย
  4. จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

อีกทั้ง การกระทำของสถานบริการดังกล่าว ยังเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 เตรียมชงผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครสั่งปิดสถานที่เป็นเวลา 5 ปี

สถานบริการแห่งนี้เคยถูกชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองจับกุม ฐานเปิดผับอัพยาและถูกสั่งปิดสถานที่เป็นเวลา 5 ปี มาแล้วเมื่อปี 2561 มาถึงปัจจุบัน ตัวอาคารเดิมถูกหั่นครึ่ง และปรับปรุงใหม่ โดยเปลี่ยนชื่อร้าน แต่กระนั้นก็ยังประกอบธุรกิจท้าทายกฎหมาย ซ้ำอีกครั้ง และจากการสืบสวนทางลับพบเป็นผับที่มีผู้อิทธิพลในพื้นที่หนุนหลังอีกด้วย

หลังจากนี้ ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จะนำเรื่องส่งต่อไปยังคณะกรรมการปราบปรามผู้มีอิทธิพลจังหวัดสมุทรสาครเพื่อขยายผลและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำว่า “การจัดระเบียบสังคม และการปราบปรามผู้มีอิทธิพล เป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย โดยมุ่งเน้นการจัดระเบียบสังคมเพื่อสร้างสังคมให้สงบสุข บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ประชาชนมีความมั่นคง ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สิ่งใดที่ขัดกับความมุ่งหมายนี้ ก็คือสิ่งที่เราต้องใช้กลไกของรัฐในการกำจัด ให้สิ้นไป”

ทั้งนี้หาก พี่น้องประชาชน มีข้อมูลการกระทำผิดกฏหมาย หรือต้องการแจ้งให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย สายด่วน 1567