เหยี่ยวดง ส่งสายลับ ล่อซื้อ สัตว์ป่าคุ้มครอง ออนไลน์ ก่อนบุกทลายแหล่งค้าสัตว์ป่าคุ้มครองรายใหญ่ใน อ.พรหมพิราม

ชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวดง ชุดปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า ขยายผลบุกค้นบ้านขบวนการค้าสัตว์ป่า ใน อ.พรหมพิราม หลังตรวจสอบในโซเชียล พบเฟซบุ๊กชื่อ “ฟาร์มมีสุข มีแต่เสียงนก” ประกาศขายสัตว์ป่าคุ้มครองหลายชนิด เช่น นกแก้วโม่ง นกเอี้ยงโครง นกขุนทอง เหยี่ยวเพเรกริน ตั้งแต่ปี 2561

ภาพจากอีจัน
โดยตรวจสอบพบว่าเจ้าของเพจ ชื่อ นายเอกชัย สีขาว อาศัยอยู่ หมู่ที่ 3 ตำบลวงฆ้อง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก มีการค้าสัตว์ป่า โดยมอบหมายให้บุคคลที่เกี่ยวข้องดำเนินการคือ นายสุขชัย จันทวงษ์ ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “อ้วน ไจแอ้นท์” ได้ติดต่อขายลูกหมีควาย อายุประมาณ 1 เดือนให้กับสายลับของชุดเหยี่ยวดง และได้ส่งมอบให้ทางรถยนต์โดยสาร พิษณุโลก-เขาค้อ-กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 และสายลับได้รับหมีควายไว้แล้วนำไปลงประจำวันที่ บก.ปทส. แล้ว
ภาพจากอีจัน


เจ้าหน้าที่สืบสวนเพิ่มเติมพบว่า นายสุขชัย อาศัยอยู่ที่บ้านเช่า ตำบลบ้านกร่ำ อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี จึงนำหมายค้าของศาลจังหวัดสระบุรีเข้าตรวจค้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2562

โดยหลังจากตรวจสอบ ก็พบกับเหนี่ยวนกเขาชิครา จำนวน 1 ตัว จึงตรวจยึดไว้ พร้อมจับกุมนายสุขขัย และยึดโทรศัพท์พร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์มาตรวจสอบเพิ่มเติม ก็พบว่า ในโทรศัพท์มีข้อมูลการโอนเงินค่าลูกหมีควายคืนให้กับ “นวลนภา กรองปราบ” ซึ่งอาศัยอยู่กับ “นายเอกชัย สีขาว”

ภาพจากอีจัน


นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสืบหาข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า นายเอกชัย มีการซุกซ่อนสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวนหนึ่งในบ้าน 2 หลังของญาติ ในท้องที่ อำเภอพรหมพิราม จึงรวบรวมเอกสารหลักฐานไปขอหมายค้นที่จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเข้าตรวจค้น บ้านทั้ง 2หลังในวันนี้ (30 พ.ค. 62)

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


โดยบ้านหลังที่ 1 โดยมี นายเนียม จงนุช เป็นเจ้าของบ้าน และแจ้งว่าเป็นญาติของนายเอกชัย ซึ่งหลังการตรวจค้น ก็พบ นกขุนทอง 1 ตัว และนกกิ้งโครงคอดำ 1 ตัว อยู่ในกรงเหล็ก จำนวน 2 กรง ซึ่งนกดังกล่าวเป็นของนายเอกชัยฝากเลี้ยงไว้
ส่วนบ้านหลังที่ 2 พบนายอนุชิต สีขาว เป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่ตรวจพบ นกกระรางแก้มแดง อยู่ในกรงไม้ 1 ตัว และนกกระรางคอดำหรือซอฮู้ 10 ตัว อยู่ในกรงเหล็กจำนวน 17 กรง โดยมี นายอนุชา สีขาว เป็นคนดูแลและให้อาหาร ซึ่งทั้งสองคนแจ้งว่าเป็นน้องชายของนายเอกขัย และนกดังกล่าว เป็นของนายเอกชัย ที่ตอนนี้อยู่ที่จังหวัดพิจิตร และไม่สามารถติดต่อได้

ภาพจากอีจัน


เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19 และ 47 ข้อหา ร่วมกันครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงควบคุมบุคคลทั้ง 3 คน และ ตรวจยึดสัตว์ป่าของกลางรวมจำนวน 4 ชนิด 14 ตัว และอุปกรณ์การกระทำผิด กรงนก จำนวน 20 กรง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.พรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย และขอให้ออกหมายเรียก นายเอกชัย สีขาว มาดำเนินคดี ในข้อหา ค้า และครอบครอง สัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมอบให้ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) เป็นผู้กล่าวโทษ และเก็บรักษาของกลางจำนวนดังกล่าวต่อไป
ทั้งนี้ การจับกุมครั้งนี้เป็นการทลายขบวนการค้าสัตว์ป่าทางอินเตอร์เน็ตรายใหญ่อีกรายหนึ่ง และจะได้สืบสวน ขยายผล จับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือให้ได้ต่อไป