แพทย์นิติเวช ยัน แท่งย้วยขาวพบได้ทั่วไป ไม่เกี่ยววัคซีน mRNA 

นาวาตรี นายแพทย์ อรรถสิทธิ์ ดุลอำนวย แพทย์แผนกนิติเวช รพ.ภูมิพลฯ ยัน แท่งย้วยสีขาว พบได้ทั่วไปในคนที่เสียชีวิต ไม่เกี่ยวกับวัคซีนโควิด mRNA

อรรถสิทธิ์ แพทย์นิติเวชศาสตร์ ยัน ข่าวการตายของผู้รับวัคซีน mRNA พบสิ่งประหลาดในหลอดเลือด เป็นการเข้าใจผิด แท้จริงเป็นการตกตะกอนของเลือดภายหลังจากเสียชีวิต ไม่เกี่ยวกับวัคซีน 

วันนี้ 21 ก.พ. 67 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ได้นำเสนอข่าวกรณีที่ นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ระบุผลการศึกษาในต่างประเทศ พบแท่งย้วยสีขาวในหลอดเลือดของผู้ที่เสียชีวิต ที่ฉีดวัคซีนโควิดชนิด mRNA หรือที่เรียกว่า ไวท์คอต นั้น  

ล่าสุด นาวาตรี นายแพทย์ อรรถสิทธิ์ ดุลอำนวย แพทย์แผนกนิติเวชศาสตร์ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช ระบุ ว่า ไวท์คอต ที่ศ.นพ ธีระวัฒน์ บอกนั้น เป็นการเข้าใจผิด จริงๆ แล้วแท่งสีขาว คือ การตกตะกอนของเลือดภายหลังจากการตาย ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่พบได้ในผู้ตายทุกคน เพราะในเลือดมันไม่ได้มีแค่เลือดเฉยๆ เวลาเม็ดเลือดแดง  

เม็ดเลือดขาว และน้ำเลือด ตัวน้ำเลือดจะตกตะกอนกลายเป็นเม็ดเลือดแดง ตามด้วยเม็ดเลือดขาว และน้ำใสๆ เมื่อแข็งตัวจะเจอเป็นลักษณะแท่งสีขาวลื่นๆ นิ่มๆ คล้ายเจล ถ้าเป็นกรณีของลิ่มเลือดอุดตันจะเป็นอีกแบบนึง ซึ่งจะแตกต่างจากลิ่มเลือดที่เกิดจากการตาย โดยจะมีลักษณะเป็นเส้นแดงๆ สีแดงสดอมชมพู แห้งๆ มีผิวเป็นจุดเล็กๆเป็นเกล็ด ยึดติดกับผนังหลอดเลือดและจะไม่เป็นสีขาว ส่วนลิ่มเลือดในผู้ที่ตายแล้วจะมีการตกตะกอนและเป็นสีขาว บางครั้งจะเรียกว่า chicken fat เจอกันเป็นประจำ เขี่ยดูแล้วก็ทิ้งไป ไม่ได้มีความสำคัญอะไร เวลาผ่าศพเจอเป็นประจำ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัคซีนใดๆ ทั้งสิ้น เพราะมีมาตั้งนานแล้วซึ่งเราเรียกว่า postmortem blood clot 

การผ่าชันสูตรให้ความสำคัญกับลิ่มเลือดที่เกิดหลังตายทันที จะได้รู้สาเหตุการตายที่ชัดเจน ซึ่งลิ่มเลือดที่อุดตันตามหลอดเลือดต่างๆ ต้องเป็นสีแดงทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางแพทย์นิติเวชให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการเกิดขึ้นทันทีที่ตาย เช่น มีเซลล์อยู่ในนั้น ผ่าตัดลิ่มเลือดไปตรวจทางกล้องจุลทรรศน์ ก็จะมีลักษณะคือหลอดเลือดที่ตายไปแล้ว และทำการผ่าชันสูตร ทำให้เลือดที่เคยอยู่นั้นค่อยๆตกตะกอน เป็นการเกิดก่อนตาย 

ดังนั้นต้องแยกจากกัน เพราะเวลาชันสูตรศพ ต้องดูว่าเลือด ลิ่มเลือดต่างๆ แพทย์จะดูก่อนตายทันที ซึ่งจะทำให้รู้ว่าการตายเพราะโรคอะไร หรือ เกิดจากวัคซีน ที่ผ่านมาเคยมีคนที่เสียชีวิตจากวัคซีน 

หนึ่งรายก็พบเช่นกัน เพราะเป็นเรื่องปกติ คนตายจากโรคอื่นก็พบได้ ดังนั้น ไม่ว่าจะเสียชีวิตจากอะไร ร่างกายทุกคนก็มี postmortem blood clot ตัวนี้ อยู่ในตัวอยู่แล้ว เรียกว่า ลิ่มเลือดตาย เวลาแพทย์ชันสูตรก็จะตัดทิ้งไป ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่หรือปรากฏการณ์ใหม่ แต่เป็นมานาน ตั้งแต่ผมเป็นนักเรียนแพทย์แล้ว มีลักษณะเหมือนยาสีฟันลื่นเป็นวุ้นคล้ายกับมันหนังไก่ กึ่งเจล ซึ่งอยู่ในท่อของหลอดเลือด เหมือนหากจะอธิบายให้เห็นภาพชัดๆ ลองนึกถึงข้าวหลาม เราผ่าข้าวหลามก็จะพบแท่งข้าวหลามเป็นแท่งตามทรงกระบอกไม้ไผ่ เช่นกันกับกรณีนี้ มันอยู่ในหลอดเลือด เมื่อตายก็อยู่ในหลอดเลือดเป็นทรงหลอดเลือด ก็จะเป็นเหมือนหนวดปลาหมึกและเป็นแท่งยาวๆ 

โดยสรุป จากข้อมูลที่ออกมาเป็นการเข้าใจผิด ซึ่งข่าวที่ออกมาที่จะสร้างความสับสนให้กับประชาชน เพราะไม่ได้เกี่ยวกับวัคซีน แต่เป็นเรื่องปกติที่พบได้ 

อย่างไรก็ตาม ด้าน นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha เพื่อยืนยันถึงการพบแท่งย้วย หรือลิ่มเลือดสีขาวในผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดชนิด mRNA ทั้งเสียชีวิต และยังมีชีวิต ว่า 

ต้องแสดงให้เห็นว่ามีคนตาย พิการ จากวัคซีน โควิด รวมทั้ง สมองเสื่อม อักเสบทั้งตัว กี่ครั้งกี่หน ถึงจะมีใจกรุณา มาช่วยกันเยียวยารักษาหาทางแก้ไขและปรับปรุงวัคซีนให้มีความปลอดภัยที่สุด คนป่วยที่แสดงนี้เป็นส่วนน้อย มีอีกเป็นร้อย ที่แค่กลุ่มเล็กๆของเราดูแล และคนป่วยถูกวินิจฉัยก่อนหน้าว่าเป็นโรคจิต คิดไปเอง 

ที่มา และความสำคัญของ white clot และวัคซีนโควิด mRNA 

1- พบ ในกลางปี 2021 โดยที่ก่อนหน้านี้ไม่เจอ แม้จะมีโควิดระบาด  

2- วัคซีนที่ใช้ในโลกตะวันตกเริ่มประมาณกุมภาพันธ์ 2021 

3- พบในคนป่วยทั้งที่ยังมีชีวิต จากการคีบออกมาจากเส้นเลือดหัวใจรวมทั้งปนอยู่ในน้ำในช่องท้องที่เห็นได้จากท่อระบายน้ำจากช่องท้อง และในคนป่วยหลังตายทันที  

4- พบมากในศพคนที่“ตายทันที กระทันหัน ” และ มีตั้งแต่อายุวัยรุ่น จนถึงอายุ 30 ที่ปกติแล้วไม่ได้ พบ การตายกระทันหันเช่นนี้และยังลามไปถึงคนอายุ 50 และแน่นอน คนที่อายุมากกว่านี้ก็พบเช่นเดียวกัน 

5- เจ้าหน้าที่จัดการศพที่ให้ข้อมูลเป็นคนที่ ผ่านการอบรมทางวิชาชีพเป็นทางการ และมีประสบการณ์หลาย 10 ปีขึ้นไปจนถึง นานกว่า30ปีโดยไม่พบเห็น white clot เช่นนี้มาก่อนที่จะมีการใช้วัคซีน 

6- ในทั้งหมด ของเจ้าหน้าที่ 269 คน มีประสบการณ์การทำงานมากกว่า 20 ปี ถึง 137 คนและทำงานมา 11 ถึง 20 ปีเป็นจำนวนถึง 60 คนด้วยกัน  

ซึ่งสามารถที่จะวิเคราะห์ได้ว่าก้อนที่เกิดขึ้นนั้นเป็นของปกติหรือผิดปกติ 

7-แต่ละคนนั้นทำการจัดการศพโดยเฉลี่ยปีละ 100 ศพ และมากสุดถึง 300 ต่อปี 

8-ในปี 2023 มี white clot ในศพ ประมาณ 20% และ 73% หรือ เจ้าหน้าที่ 197 คน ที่พบแท่งยาวสีขาวนี้ในศพ และอีก 72 คนหรือ 27% ไม่พบ โดยทั้งหมดพบในช่วงประมาณกลางปี 2021 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน ทั้งสิ้น

แต่เจ้าหน้าที่ทั้งหมดไม่พบลักษณะนี้ก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิดและก่อนหน้าที่มีการใช้วัคซีนโควิด 

เจ้าหน้าที่ 6 รายพบลักษณะผิดปกติเช่นนี้ใน 81 ถึง 100% ของศพ 

เจ้าหน้าที่ 11 รายพบ 61 ถึง 80% ของศพ และ 29 รายพบ 41 ถึง 60% ของศพ 

48 รายพบ 21 ถึง 40% ของศพและ 112 รายพบหนึ่งถึง 20% ของศพ ทั้งนี้อาจจะเป็นความเกี่ยวข้องกับพื้นที่และปัจจัยอื่นๆของคนที่เสียชีวิต 

9- และนอกจากนั้นในปี 2023 ยังพบลักษณะของ micro-clotting/coffee grounds/dirty bloods ประมาณ 25% โดยที่พบน้อยกว่า 5% ก่อนหน้าโควิดและก่อนหน้าที่มีการใช้วัคซีนโควิด  

10- ลักษณะของ white clot นั้น เหมือนกับถูกหล่อมาจากเส้นเลือดไม่ว่าจะเป็นเส้นเลือดดำหรือแดงมีลักษณะเป็นแท่งหรือเป็นเส้น ในเส้นเลือดแดงขนาดใหญ่และขนาดกลางโดยมีความเหนียวยืดหยุ่นได้และมีความยาวเป็นฟุต ไม่เหมือนกับก้อนหรือแท่งตามปกติที่พบหลังการตายที่มีมีหลายลักษณะตามระยะเวลาหลังจากที่เสียชีวิต 

11- จากการที่สามารถพบได้ในคนที่ยังไม่ตายและกำลังจะตายซึ่งช่วยชีวิตไม่ทันและตายใหม่ๆ จึงเป็นที่มาของข้อสันนิษฐานว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่เป็นสาเหตุของการตายโดยเฉพาะที่เป็นการตายกระทันหันที่เกิดจากหลอดเลือด ร่วมกับความสามารถของวัคซีนโควิดที่ก่อให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือดอยู่แล้วรวมกระทั่งถึงอวัยวะอื่นๆและหัวใจโดยที่ในหัวใจนั้นพิสูจน์แล้วว่าเกิดจากมีกระจุกหย่อมการอักเสบ ที่ตัดทางเดินไฟฟ้าที่ควบคุมการเต้นของหัวใจ 

รูปในวิดีโอจากต่างประเทศส่งมาจากคุณหมอรุ่นน้องที่ติดตามเรื่องนี้ ขอบคุณมากครับ 

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha