เวลาประมาณ 03.00 น. (25 พ.ค. 67) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ นำฝ่ายปกครอง ตำรวจ บุกเข้าตรวจสอบสถานบันเทิง Dirty Pub Pattaya ภายในซอยกอไผ่พัทยา เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับรายงานว่า เป็นสถานบันเทิงผิดกฎหมาย มีนักเที่ยววัยรุ่นเข้ามามั่วสุมเสพยาเสพติด และจำหน่ายยาเสพติดเป็นประจำเกือบทุกวัน
หนำซ้ำ ยังมีเหตุทะเลาะวิวาทบ่อยครั้ง รวมถึงเปิดให้บริการปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนนำกำลังเข้ามาตรวจสอบ
เมื่อชุดจับกุมเข้าไปถึงภายในผับ นักเที่ยวจำนวนกว่า 300 คน ต่างแตกฮือ พยายามโยนยาเสพติดทิ้งลงพื้นเกลื่อน และพยายามหลบหนี แต่ชุดจับกุมได้ปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้ เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง จึงสั่งให้ยุติกิจกรรมทั้งหมด ปิดเพลง เปิดไฟ แล้วสั่งแยกผู้หญิง ผู้ชาย ตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน
จากนั้นได้นำตัวนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นพบมีปัสสาวะสีม่วง จำนวน 218 คน โดยเป็นผู้ชาย 102 คน เป็นผู้หญิง 116 คน
พนักงานฝ่ายปกครอง จึงได้จับกุมตัวเจ้าของร้าน ผู้ดูแล และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา และมีการปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในบริเวณสถานประกอบการ ซึ่งเป็นเหตุผลประกอบการทำคำสั่งปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 5 ปี เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า สถานบันเทิงแห่งนี้มีกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายชัดเจน ทั้งการไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา ปล่อยปละละเลย ให้มีการขายและเสพยาเสพติดภายในร้าน รวมถึงเปิดยันเกือบรุ่งเช้า จึงถือว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดแจ้ง.