อึ้ง ทึ่ง เสียว เส้นทางล้อเดียว เก็บ “ลางกอง” บนเขาลับแล

ลางกอง มหัศจรรย์ผลไม้แห่งเขาลับแล ต้นเป็นลางสาด ยอดเป็นลองกอง

เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลผลไม้แห่งเมืองลับแล เส้นทางขึ้นเขาจะคึกคักด้วยมอเตอร์พ่วงข้างของชาวสวน วิ่งขึ้น-ลง สวนกันไปมาบนเขาลับแล เป็นอีกบรรยากาศที่สวยงามมากๆค่ะ

#ลางกอง เป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่ปลูกบนภูเขาลับแล ผลผลิตของเกษตรชาวอุตรดิตถ์ ฟังไม่ผิดค่ะ ผลไม้ชนิดนี้มีชื่อว่า “ลางกอง” ไม่ใช่ผลไม้สายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด แต่เป็นการพัฒนาสายพันธุ์และใช้ชื่อใหม่ เดิมทีจังหวัดอุตรดิตถ์ปลูกลางสาดกันเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากเจ้าลางสาดเป็นผลไม้ที่มีความบอบบางทำให้เกิดการเสียหายระหว่างการขนส่ง ราคาในแต่ละปีก็ค่อนข้างตกต่ำ ชาวอุตรดิตถ์จึงมีการผสมผสานสายพันธุ์ ระหว่างต้นต่อของลางสาด และเสียบยอดด้วยลองกอง และใช้ชื่อว่า ลางกอง ค่ะ

ในปีนี้ ลางกอง ออกผลผลิตให้เราได้รับประทานกันในช่วงเดือน กันยายน – ตันพฤศจิกายน 65 ผลผลิตแต่ละปีจะออกช่วงเดือนไหนก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยค่ะ

สำหรับสวน ลางกอง จะมีทั้งสวนที่อยู่พื้นราบ และสวนที่อยู่บนภูเขาลับแล เราจะมาเล่าถึงบรรยากาศการขึ้นไปตัด ลางกอง บนภูเขาลับแล ให้ทุกคนได้สัมผัสบรรยากาศไปพร้อมๆกันค่ะ สำหรับการเดินทางขึ้นไปจะต้องใช้รถมอเตอร์พ่วงข้างที่มีตระก้าไว้สำหรับใส่ลางกองที่เก็บได้ลงมาค่ะ พร้อมอุปกรณ์ก็คือ มืด ตระขอ อุปกรณ์มีเท่านี้ค่ะ

แต่ที่ อึ้ง ทึ่ง เสียว คือ เส้นทางที่ขึ้นไปเป็นเส้นทางล้อเดียว มอเตอร์วิ่งได้เพียงคันเดียวเท่านั้นค่ะ เรียกว่าสวนกันไม่ได้เลย ในช่วงที่ต้องขึ้นเขาสูงๆ บางจุดสุดเสียวเพราะข้างทางคือเหว ต้องอาศัยความชำนาญในการขับขี่มากๆค่ะ กว่าจะถึงสวนก็เอาสะเสียวท้องกันไปเลยทีเดียวค่ะ

เมื่อขึ้นมาถึงที่ สวนลางกอง พูดได้คำเดียวเลยว่าดกมาก ออกลูกเต็มต้นเลยค่ะ แต่ละพวกทั้งใหญ่ ทั้งยาว เป็นลางกองที่มีความอุดมสมบูรณ์มากๆ ชาวสวนลับแลเล่าให้ทีมงานอีจันฟังว่าที่ ลางกองลับแล มีช่อใหญ่และอุดมสมบูรณ์แบบนี้ เพราะลับแลมีลักษณะภูมิศาสตร์ที่เฉพาะ ดินดีมีแร่ธาตุเยอะ อากาศอุดมสมบูรณ์ และมีแหล่งน้ำจากธรรมชาติ ทำให้เพาะปลูกอะไรก็ได้ผลผลิตที่ดี อุดมสมบูรณ์ มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ จุดเด่นของผลไม้ที่นี้คือ แทบจะไม่ต้องใช้ปุ๋ยเร่งการเติบโต เร่งความหวาน ความใหญ่ ปล่อยให้โตตามธรรมชาติ

ได้เวลาเก็บลางกองแล้วค่ะ ช่อที่อยู่ไม่สูงมากก็ใช้มีดตัดเอาได้เลย แต่ถ้าช่อไหนอยู่สูงๆบนยอด พี่ๆชาวสวนก็จะปีนขึ้นต้นไปตัดค่ะ แล้วพกตระก้าขึ้นไปใส่ ด้วยวิธีการเอาเชือกผูกหูตระก้าแล้วสาวขึ้นไปบนต้น พอได้ลางกองเต็มตระก้าก็ค่อยๆหย่อนตระก้าลงมา แต่ถ้าพวงไหนอยู่ปลายกิ่งใช้มือเอื้อมไม่ถึงก็ต้องใช้ไม้ขอยาวๆผูกด้วยปลายมีด และมีตระกร้อช่วยเก็บค่ะ ก่อนลำเลียงลางกองลงเขาบางคนจะห่อด้วยถุงดำ หรือ คลุมตาข่าย กันลางกองร่วงและป้องกันความเสียงหายไม่ให้เกิดการช้ำค่ะ

เก็บเสร็จก็ลำเลียง ลางกองลงเขาค่ะ เส้นทางเดิมเลยเสียวเหมือนเดิม พี่ๆชาวสวนบอกทีมงานอีจันว่าชินแล้ว ขับขึ้นเขามาตั้งแต่เด็ก แต่ทีมงานอีจันคือท้องไส้พันกันแล้วค่ะ แต่ก็สนุกดี เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ในชีวิตที่น่าตื่นเต้นมากๆค่ะ

เมื่อนำ ลางกอง ลงมาจากเขาเสร็จเรียบร้อย ก็ไม่ใช่ว่าจะขายได้เลยนะคะ ต้องนำมาแยกเบอร์เป็นเบอร์ 1 , 2 , 3 สามเบอร์นี้ถือว่าเป็นเบอร์ที่คัดช่อสวย เป็นลางกองเกรดส่งออก หรือส่งห้างสรรพสินค้า ช่อยาว ใหญ่ และแน่น ถ้าเป็นเบอร์ 1 ก็จะมีน้ำหนักช่อประมาณ 7 ขีด ไปจนถึง 1 กิโล+ เบอร์ 2 น้ำหนักช่อจะอยู่ที่ประมาณ 6 ขีด และเบอร์ 3 น้ำหนักช่อจะอยู่ที่ประมาณ 5 ขีด และก็ยังมีเบอร์ที่เรียกว่ากระปุก ลักษณะช่อจะสั้นๆ และเบอร์กระซา จะมีลักษณะช่อห่าง ลูกไม่แน่น

รสชาติ ลางกองลับแล มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากพื้นที่อื่น มีรสที่จัดจ้าน หวานซ่อนเปรี้ยว กลิ่นหอม เนื้อแห้ง เปลือกบาง ไม่มียาง กินคำเดียวจำรสชาติได้มาถึงวันนี้เลยค่ะ 1 ปีมีครั้งเดียว ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศสวนลางกองบนหุบเขา หรืออยากลิ้มลองความอร่อย ต้องรีบหน่อยนะคะ เพราะลางกองจะมีให้เรารับประทานแค่ในช่วงเดือนกันยายน – ต้นพฤศจิกายนนี้เท่านั้นค่ะ

คลิปอีจัน แนะนำ