โอกาสของข้าราชการมาถึง!
วันนี้ 24 มิ.ย.68 เพจเฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร ได้ออกมาเผยคลิปว่า พร้อมแล้วกับการโอบรับความหลากหลาย เปิด Pride Mode ให้ข้าราชการ ได้แสดงความเป็นตัวเอง โดยการแต่งกายได้ตามเพศสภาพและอัตลักษณ์ของตัวเองได้อย่างอิสระ ซึ่งในคลิปนี้ได้ระบุว่า…
น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯกทม. เผยว่า เมื่อเราพูดถึงความเท่าเทียมสำหรับความหลากหลาย อยากให้มองว่านโยบายของกรุงเทพมหานครไม่ได้เน้นแค่เพียงว่า พอสังคมเราตระหนักถึงความหลากหลายที่มากขึ้นในเรื่องเพศเราก็ตอบรับเท่านั้น ไม่อยากให้เข้าใจอย่างนั้น ข้าราชการทุกท่านทราบอยู่แล้ว ท่านผู้ว่าฯ กทม.ประกาศให้สามารถปฏิบัติตนตามเพศวิถีที่มีอยู่ได้ และเพศสภาพที่เรามีอยู่ได้ อยากจะปฏิบัติตัวยังไง ซึ่งถ้าเราอยู่ในวินัยที่ดีของการเป็นข้าราชการที่มีความซื่อสัตย์ได้ ทำงานเพื่อประชาชน จะเป็นอย่างไรก็ได้ หรือแม้แต่เรื่อง Sexual Harassment ซึ่งก็อยู่ในประกาศของผู้ว่าฯกทม. เพราะเราจะต้องปกป้องไม่ให้เกิดภาวะที่อึดอัดหรือรังแกกัน ไม่ว่าการกระทำนั้นจะมาจากเรื่องของเพศสภาพ หรือจะมาจากตำแหน่งที่มากกว่ากัน กดดันกัน บังคับกัน ก็ไม่ควรจะเกิดขึ้น
ทั้งนี้แนวทางสนับสนุนความหลากหลายทางเพศของ กทม. ประกอบด้วย
-ข้าราชการและบุคลากรของ กทม.สามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้
-ให้บริการคลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย (BKK Pride Clinic) 31 แห่ง ในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร 11 แห่ง และศูนย์บริการสาธารณสุข 20 แห่ง เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัย และส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างเท่าเทียม
-จัดเทศกาล Pride Month เดือนมิ.ย. เดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาว LGBTQIA+ ตั้งเป้าเป็นเทศกาลระดับโลก (World Pride)
-โรงเรียนสังกัด กทม.ปลูกฝังค่านิยมด้านความเท่าเทียมและความหลากหลาย
-เปิดพื้นที่สาธารณะสำหรับจัดกิจกรรมด้านความหลากหลายทางเพศ เพื่อส่งเสริมสิทธิ หน้าที่และโอกาสทางสังคมของกลุ่ม LGBTQIA+
โดยความคิดเห็นจากครูที่มีความหลากหลายทางเพศก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากทราบนโยบายนี้ ว่า การที่ข้าราชการได้แต่งกายตามเพศสภาพนั้น ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะการแต่งกายในทุกวันก็อยากแต่งตัวให้ดี แต่งกายให้ดูสวย หล่อ ตามเพศสภาพของเรา ซึ่งสิ่งนี้ก็ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญเพราะทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการมาทำงานทุกวัน แถมทำให้การทำงานมีคุณภาพมากขึ้น การจัดการเรียนการสอนมีคุณภาพมากขึ้นและได้ย้ำว่า นโยบาย Pride Mode ให้ข้าราชการนี้ คือการสร้างความเท่าเทียมขึ้นมาจริงๆ
แล้วลูกเพจล่ะคะคิดอย่างไรกับเรื่องนี้บ้างคะ?
ที่มา: เพจเฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร https://www.facebook.com/share/v/1ZMWzjhDdq/