
รัฐบาลไทย ได้เปิดตัวนโยบายสุขภาพใหม่ “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่” ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้สะดวกขึ้น โดยไม่จำเป็นต้ผสองใช้ใบส่งตัวหรือเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติม นโยบายนี้ได้รับการนำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ
การเยี่ยมชมโรงพยาบาลจตุรพักตรพิมานที่จังหวัดร้อยเอ็ด ได้เปิดโอกาสให้คณะผู้นำตรวจสอบความคืบหน้าของระบบต่างๆ อาทิ ระบบการตรวจสอบประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ การออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล และระบบการนัดหมายออนไลน์ ซึ่งถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดโครงการอย่างเป็นทางการในวันนี้ที่ลานสาเกตุนคร จังหวัดร้อยเอ็ด
นโยบายนี้ได้รับการยกย่องว่า เป็นการปฏิวัติระบบสุขภาพไทย เป็นการต่อยอดจากนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่” ที่มีมานานกว่า 22 ปี และในวันนี้รัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เริ่มต้นนโยบาย ’30 บาทรักษาทุกที่’ นำร่อง 4 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด แพร่ เพชรบุรีและนราธิวาส

โดย น.ส.แพทองธาร ได้กล่าวในพิธีเปิดว่า นโยบายนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพของบริการสุขภาพในประเทศไทย ทำให้การเข้าถึงบริการสุขภาพเป็นไปอย่างง่ายดายและทั่วถึงมากขึ้นสำหรับประชาชนทุกคน นอกจากนี้ยังเป็นการลดความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองและกรุงเทพฯ ซึ่งมีการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนอย่างมากขึ้น เพื่อให้การบริการสุขภาพเป็นไปอย่างครอบคลุมและรวดเร็ว
เฟสต่อไปของนโยบายนี้ คาดว่าจะขยายไปยังอีก 8 จังหวัดภายในเดือน มี.ค.67 ประกอบด้วย เพชรบูรณ์, นครสวรรค์, สิงห์บุรี, สระแก้ว, หนองบัวลำภู, นครราชสีมา, อำนาจเจริญ และพังงา เพื่อให้ครอบคลุมทุกภาคของประเทศ
น.ส.แพทองธาร ยังได้กล่าวชื่นชมผู้ที่มีส่วนในการสร้างและผลักดันนโยบาย “30 บาทรักษาทุกโรค” ในอดีต อาทิ นายแพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ และนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศไทย นโยบายนี้ไม่เพียงแต่ยกระดับระบบสาธารณสุขเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการดูแลสุขภาพของประชาชนทั่วประเทศไทย

น.ส.แพทองธาร ย้ำว่า นโยบายนี้เป็นการสานต่อความพยายามที่จะปรับปรุงและพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศไทยให้มีความทันสมัยและประสิทธิภาพมากขึ้น โดยหวังว่านโยบายนี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของประชาชนไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนและเป็นสัญลักษณ์ของการพัฒนาที่เป็นประโยชน์ต่อทุกคนในสังคม การเปิดตัวนโยบาย “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่” ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาด้านสาธารณสุขของไทย ที่ไม่เพียงแต่ยกระดับการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชน แต่ยังเป็นการปฏิวัติระบบสาธารณสุขด้วยการใช้เทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้การรักษาประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
นโยบายนี้ไม่เพียงส่งผลดีต่อประชาชนในด้านการเข้าถึงการรักษาที่ดีและทั่วถึงเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างระบบสาธารณสุขที่ยืดหยุ่นและสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี การเปิดตัวนโยบายนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในระบบสาธารณสุขไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเป็นการยืนยันถึงความเป็นผู้นำในการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศ






