เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 67 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ปัจจุบันไทยมีปัญหาเข้าสู่สังคมวัยเกษียณแต่ไร้เงินเก็บ ซึ่งปัญหานี้กำลังจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยการเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างรวดเร็วของไทย และปัญหานี้ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับเพิ่มเบี้ยชราให้สูงขึ้น ซึ่งระบบงบประมาณไม่มีทางรับไหว
โดยกระทรวงการคลังกำลังพิจารณาออกนโยบาย สลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือเรียกอีกอย่างว่า สลากเกษียณ หรือ หวยเกษียณ ถือเป็นนวัตกรรมทางนโยบายที่เอาเรื่องการชอบเสี่ยงดวงของคนไทยมาเป็นแรงจูงใจในการเก็บเงินออม โดยจะสามารถถอนเงินจากการซื้อสลากไปทั้งหมดออกมาได้หลังเกษียณ หรืออายุ 60 ปี โดยมีรายละเอียดในเบื้องต้น ดังนี้
หวยเกษียณ หรือ สลากเกษียณ ขายให้ใคร ใครซื้อได้บ้าง?
ผู้ที่สามารถซื้อ หวยเกษียณ หรือ สลากเกษียณ ได้ ต้องเป็นสมาชิกของ กอช. หรือ กองทุนออมแห่งชาติ, เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 หรือ แรงงานนอกระบบ ทั้งนี้กลุ่มเป้าหมายอาจจะมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมได้
หวยเกษียณ หรือ สลากเกษียณ ราคาเท่าไหร่?
กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. จะออกสลากขูดแบบดิจิทัล กำหนดราคาขาย ใบละ 50 บาท สามารถซื้อได้ทุกวัน แต่จะซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อเดือน
หวยเกษียณ หรือ สลากเกษียณ ออกรางวัลตอนไหน?
การอกรางวัลจะมีขึ้นทุกวันศุกร์เวลา 17.00 น. ผู้ถูกรางวัลจะได้เงินรางวัลทันที โดยที่เงินค่าซื้อสลากจะถูกเก็บเป็นเงินออมของตัวผู้ซื้อ แม้จะถูกรางวัลหรือไม่ถูกก็ตาม ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวนี้จะนำส่งเข้าบัญชีเงินออมรายบุคคลกับ กอช. โดยทาง กอช.จะเป็นผู้บริหารจัดการเงินจำนวนดังกล่าว และเมื่อผู้ซื้อสลากอายุครบ 60 ปี ก็จะสามารถถอนเงินทั้งหมดที่ซื้อสลากมาทั้งชีวิตออกมาได้
หวยเกษียณ หรือ สลากเกษียณ มีกี่รางวัล รางวัลละกี่บาท?
ในเบื้องต้นนี้ หวยเกษียณ จะมี 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลที่ 1 จำนวนเงิน 1,000,000 บาท 5 รางวัล และ รางวัลที่ 2 จำนวนเงิน 1,000 บาท 10,000 รางวัล โดยรางวัลอาจมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมได้
ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนของการปรับแก้ไขรายละเอียดและต้องใช้เวลาในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายราว 6 เดือน ถึง 1 ปี ซึ่งจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ แต่จะมีการเร่งรัดเพื่อให้สามารถดำเนินการได้เร็วที่สุด และในระหว่างนี้จะต้องหารือถึงรูปแบบสลาก การออกรางวัล เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากที่สุด โดยนโยบายนี้เป็นของพรรคเพื่อไทย ที่ได้ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ภายใต้นโยบายหวยบำเหน็จ แต่ที่ไม่ใช้ชื่อหวยบำเหน็จเพราะต้องการให้เกิดความยืดหยุ่น ส่วนแหล่งเงินที่จะนำมาใช้เป็นเงินรางวัลนั้น จะมาจากงบประมาณ โดยเฉลี่ยสัปดาห์ละ 15 ล้านบาท เดือนละ 60 ล้านบาท และปีละกว่า 700 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับนโยบายเบี้ยคนชราที่ใช้งบประมาณปีละ 4-5 แสนล้านบาท
คลิปอีจันแนะนำ
ชะตาชีวิต ที่แสนเศร้า หมวยเล็ก ไซบีเรียน สู่ชีวิตใหม่