เมื่อเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา มีคดีที่หลายคนให้ความสนใจ และร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพื่อติดตามหาความจริงว่า “น้องหญิง น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช สาวสวยวัย 19 ปี ตกรถเทรลเลอร์จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตจริง ตามที่ นายสุรพล หรืออ๊อฟ คนขับรถเทรลเลอร์ไปส่งนอหลังจากกลับจากสถานบันเทิง อ้างจริงหรือไม่
เหตุการณ์นี้ เริ่มเป็นที่สนใจ เมื่อ เฟซบุ๊ก Baifern Pns ซึ่งเป็นพี่สาวของ น้องหญิง ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์
ในคืนวันที่ 19 ก.ค.61 ว่า
น้องหญิง ไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา กับรูมเมท และเพื่อนชายอีก 2 คน แต่ปรากฏว่าน้องสาวของเธอเสียชีวิต เนื่องจาก กะโหลกแตก กระดูกหน้าแตก สมองบวม
โดยนายอ๊อฟ ชายในกลุ่มที่ไปเที่ยวด้วยกันและเป็นคนอาสามาส่ง น้องหญิง อ้างว่า น้องหญิงกระโดดลงจากรถเทรนเลอร์ จนได้รับบาดเจ็บและนำตัวมาส่งโรงพยาบาลก่อน น้องหญิง จะเสียชีวิต
จนผลชันสูตรเบื้องต้นออกมาว่า น้องหญิง โดนของแข็งไม่มีคมทุบตีที่ท้ายทอย…
ข้อมูลนี้ทำให้ครอบครัว น้องหญิง ยิ่งติดใจถึงสาเหตุการตายของเธอมากขึ้น เพราะข้อมูลที่ออกมา ตรงข้ามกับคำให้การของ อ๊อฟ สิ้นเชิง
หลังจากนั้น วันที่ 27 ก.ค.61 นายอ๊อฟ เข้าให้ปากคำกับตำรวจ พร้อมพาชี้จุดตามคำให้การว่า ตนเอง อาสาจะไปส่งน้องหญิง หลังกลับจากสถานบันเทิง ใน จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากเป็นทางผ่าน ไปขึ้นงานส่งของ
หลังจากออกจากสถานบันเทิง นายอ๊อฟ ได้ขับรถกระบะพา น้องหญิง มาเปลี่ยนเป็นรถเทรลเลอร์ ที่จะไปรับงาน ก่อนที่จะขับออกมายังจุดที่ น้องหญิงกระโดดลงจากรถ โดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะที่ นายอ๊อฟ จอดรถลงไปปัสสาวะข้างทาง
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนก็ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากปั้มเชลล์ที่นายอ๊อฟ ไปเติมน้ำมัน และ กล้องวงจรปิดของทางหลวงตามเส้นทางจากสถานบันเทิงที่นายอ๊อฟ และ น้องหญิง ไปมาก่อนเกิดเหตุ จนถึงที่เกิดเหตุ
คำให้การของ นายอ๊อฟ ทำให้ พ่อน้องหญิงเป็นกังวล เช้าวันที่ 30 ก.ค.61 จึงแห่ศพน้องหญิง ไปร้องที่กองปราบฯ พร้อมยืนยันว่า จะเผาศพลูกก็ต่อเมื่อจับคนร้ายได้ คดีความจบ จนกว่าลูกสาวจะได้รับความเป็นธรรม
โดยตอนนั้น พ่อมี หลักฐาน คือ คลิปเสียง ที่น้องหญิงโทรคุยกับพี่สาว พูดทำนองว่า กลัวอะไรบางอย่างพร้อมร้องไห้อย่างหนักในช่วงเวลาประมาณ 05.30 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สอดคล้องกับที่อ๊อฟให้การว่าน้องตกรถคือ 06.00 น.
ในเหตุการณ์นี้ยังมีอีก 1 ตัวละคร คือ เป็ด รูมเมทของ น้องหญิง
เป็ดตกเป็นผู้ต้องสงสัย เป็นนกต่อพาน้องหญิงออกไปเพื่อไปหา อ๊อฟ
ซึ่งตำรวจใช้เวลาในการสอบสวนกว่าหลายชั่วโมง ก่อนที่เป็ดจะเดินออกมาและให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน ว่า
เหตุเกิดหลังจากที่ทุกคนออกจากสถานที่เที่ยวบันเทิงในคืนนั้นแล้ว เป็ดพยายามเรียกแท็กซี่เพื่อให้ไปส่งน้องหญิง เพราะเธอจะไปขึ้นสินค้าที่จังหวัดสระบุรี กับแฟน แต่ไม่มีรถแท็กซี่สักคัน อ๊อฟที่เป็นเพื่อนของท็อปเลยอาสาไปส่งน้องหญิง เพราะอ๊อฟต้องไปขึ้นสินค้าที่ย่านสุวรรณภูมิ หลังจากนั้นก็ไม่รู้อีกเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับ น้องหญิง
ขณะเดียวกัน ตำรวจได้คุมตัวนายอ๊อฟ มาทำการพิมพ์ลายนิ้วมือ และรับทราบข้อกล่าวหากักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก่อนนำตัวไปฝากของที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
แม้เป็ดจะปฏิเสธ แต่เธอ โดนแจ้งข้อกล่าวหา เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ฐาน กักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ประกอบกับมีพยานหลักฐาน หลายอย่างทั้งคลิปเสียงและพยานบุคคล
จนกระทั่งวันที่ 31 ก.ค.61 ตำรวจเชิญตัวเป็ดมาอีกครั้ง เพื่อส่งฝากขังศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว
ซึ่ง เป็ด ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันว่าไม่ได้เป็นนกต่อ
ในวันที่ 31 ก.ค.62
เจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจค้นรถพ่วงของอ๊อฟ อีกครั้ง พบฆ้อนด้ามเหล็กที่ใช้สำหรับเคาะตรวจสอบลมยาง เหน็บอยู่กับบันไดขึ้นประตูรถฝั่งด้านคนขับ 1 อัน และกล่องบล็อคประแจ เจ้าหน้าที่จึงเก็บหลักฐานไว้เพื่อเก็บหลายนิ้วมือแฝง
1 ส.ค. 61 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมกับพนักงานสอบสวน ประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี ก่อนจะออกมาให้ข้อมูลว่า สามารถแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนากับนายอ๊อฟได้เพียงคนเดียว ยืนยันว่าจะสามารถสั่งฟ้องได้แน่นอน เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่าเป็นการฆาตกรรม โดยเฉพาะบาดแผลบริเวณศีรษะ
นอกจากนี้ ยังพบท่อนไม้ยาวประมาณ 1 เมตร เปื้อนโคลน ถูกทิ้งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ
แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นอาวุธของนายอ๊อฟหรือไม่
ทางด้านนายเวชยันต์ ชมพูบุตร ทนายความของ อ๊อฟ เปิดเผยว่าในช่วงแรกที่เกิดเหตุก็เชื่อตามข่าวที่ปรากฏ แต่เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งหมด และเข้าไปเยี่ยมพูดคุยกับนายสุรพล ซึ่งบอกว่าตัวเขาเองก็มีภรรยา และลูกทำแบบนั้นเพื่ออะไร ถ้าทำจริงเขายอมรับสารภาพดีกว่าโทษหนักจะได้เป็นโทษเบาลงบ้าง
“ข้อเท็จจริงทางทีมทนายความทราบทั้งหมดแต่คงต้องนำไปต่อสู้ในชั้นศาลเชื่อว่าลูกความ(นายสุรพล) เป็นผู้บริสุทธิ์และต้องได้ความยุติธรรมกลับคืนมา” นายเวชยันต์ ระบุ
10 ส.ค.61
ผลชันสูตรพลิกศพน้องหญิง ออกแล้ว
ไม่พบร่องรอยการถูกล่วงละเมิด พบรอยช้ำบริเวณท้ายทอยจากของแข็งไม่มีคม
ค้อนที่พบบนรถเทรลเลอร์ ไม่พบดีเอ็นเอของ อ๊อฟ และการตรวจสอบห้องโดยสารในรถเทรลเลอร์ ก็ไม่พบคราบเลือด
21 ส.ค. 61
พนักงานสอบสวนที่ตั้งขึ้นมาใหม่ของตำรวจภูธรภาค 1 ได้รวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ พยานหลักฐานต่างๆ สามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง2 คนได้
แต่จะมีในส่วนที่ทางพนักงานสอบจะขอเสนอเตรียมสั่งไม่ฟ้อง ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ที่มีการแจ้งข้อกล่าวหา กับผู้ต้องหาในครั้งแรก ซึ่งจะมีการพิจารณาอีกครั้ง
เวลาผ่านไปเกือบ 1 ปี
5 ก.ค.62 ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นัดฟังคำพิพากษา ในคดีอาญา ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นโจทก์ นายสุรพล ดาราคำ หรืออ๊อฟ อายุ 23 ปี เป็นจำเลย ที่ 1 และ นางสาว สิรินาถหรือเป็ด รอบรัมย์ จำเลยที่ 2
โดยศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิพากษาให้ยกฟ้อง นายอ๊อฟ และ เป็ด เพื่อนสนิทน้องหญิง
เนื่องจากผลชันสูตรศพของฝ่ายโจทก์และจำเลยมีความขัดแย้งกันโดยฝ่ายโจทก์ชี้ว่าที่ศีรษะถูกตีด้วยของแข็ง แต่ฝ่ายจำเลยชี้ว่าเกิดจากอุบัติเหตุ และฝ่ายโจทก์ไม่สามารถนำสืบให้คลายความสงสัยได้ว่าของแข็งที่ใช้ตีที่ศีรษะของผู้ตายคืออะไร
แต่ให้ขัง นายอ๊อฟ ไว้ในระหว่างอุทธรณ์
ยังคงต้องติดตามกันต่อว่า ฝ่ายโจทย์จะสามารถหาหลักฐานได้หรือไม่ ว่า นายอ๊อฟ ใช้อาวุธอะไรก่อเหตุฆ่าน้องหญิง หรือมีหลักฐานอะไรที่บ่งชี้ได้ว่า นายอ๊อฟ ก่อเหตุแบบนั้นจริง