สลด! เด็ก 4 ขวบ นั่งอยู่ในรถกับพ่อที่เสียชีวิต
เมื่อคืนที่ผ่านมา (12 ต.ค. 65) เวลาประมาณ 19.00 น. พ.ต.ท.วิโรจน์ อินทรเพชร สารวัตรสอบสวน สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตอยู่ในรถยนต์คันหนึ่ง จอดอยู่ที่ริมถนนราษฎร์อุทิศ ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา จึงรีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ้ง) หาดใหญ่ พบรถกระบะ 4 ประตู สีดำ ซึ่งยังจอดติดเครื่องยนต์อยู่
ภายในรถบริเวณที่นั่งคนขับ พบร่างของผู้ชายคนหนึ่ง นอนเสียชีวิตอยู่ ในลักษณะเอนเบาะ นอนราบอยู่ ทราบชื่อภายหลังคือนายภาษิต (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี สภาพศพเริ่มแข็งทื่อ เนื่องจากเสียชีวิตมาหลายชั่วโมง ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย คาดว่าอาจจะเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว หรือไม่ก็หัวใจวายเฉียบพลัน ในรถพบจานข้าววางอยู่ข้างตัวพร้อมด้วยกระติกน้ำ
หลังจากการสอบถามจากลูกสาวคนเล็กอายุ 4 ขวบ ของผู้ตาย น้องเล่าว่าพ่อนอนหลับไปตั้งแต่ช่วงเช้า หลังจากที่ป้อนข้าวได้ 2 คำ หลังจากนั้นน้องก็พยายามจะปลุกพ่อหลายครั้ง แต่พ่อไม่ตื่นและนั่งอยู่กับพ่อในรถตลอดทั้งวัน เพื่อรอให้พ่อตื่น และไม่ได้ลงไปโรงเรียน ปวดฉี่ก็ไม่กล้าลงจากรถ จนช่วง 1 ทุ่ม ฝนตกหนัก ปละมีเสียงฟ้าร้อง น้องตกใจจึงเป็นประตูลงจากรถวิ่งเข้าไปในโรงเรียน เจอพี่สาวกับคุณครูที่กำลังนั่งรออยู่
คุณครูปริญญา แก่นจันทร์ คุณครูสอนอนุบาล ที่เป็นคนวิ่งเข้ามาดูเป็นคนแรก แล้วพบว่าพ่อของเด็กๆ เสียชีวิตภายในรถ เล่าว่าเวลาประมาณ 19.00 น. เห็นลูกสาวคนเล็กของผู้ตายวิ่งเข้ามาในโรงเรียน เพื่อมาหาพี่สาวที่นั่งรอพ่ออยู่ และบอกว่าพ่อนอนหลับอยู่ตั้งแต่เช้า ปลุกแล้วแต่ไม่ตื่น ตนเองคิดว่าน่าจะไม่ใช่เรื่องปกติ จึงรีบวิ่งมาดูที่รถ พบว่าพ่อของเด็กๆ เสียชีวิตอยู่ในรถ
จากการสอบถามลูกสาวคนโตของผู้ตาย บอกว่า ก่อนหน้านี้พยายามโทรหาพ่อแล้ว เพราะปกติเวลาประมาณ 15.00 น. พ่อจะมารับแต่วันนี้มารับช้า โทรไปหาพ่อแล้วแต่น้องสาวรับ คุยกันไม่รู้เรื่อง บอกแค่ว่าพ่อนอนอยู่ จึงนั่งรอพ่อกับคุณครูอยู่ในโรงเรียน เพราะคิดว่าพ่อคงติดธุระ
ลูกสาวคนโตของผู้ตาย ยังบอกอีกว่าปกติพ่อจะขับรถมาส่งตนเองและน้อง ที่โรงเรียนทุกวัน และในทุกวันพ่อจะป้อนข้าวให้น้องสาว ก่อนจะเข้าโรงเรียน แต่วันนี้พ่อมารับช้ามาก ก็คิดว่าคงติดธุระ รอจนค่ำพ่อก็ยังไม่มา จนเห็นน้องวิ่งเข้ามาแล้วบอกว่าพ่อนอนหลับอยู่ในรถ จนมารู้ว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว และพ่อก็มีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจอยู่แล้วด้วย
หลังจากเกิดเหตุคุณครูได้รับตัวของลูกสาวทั้ง 2 คน ของผู้เสียชีวิต ไปดูแลชั่วราวก่อน เพราะพ่ออยู่เพียงลำพัง ส่วนแม่ของน้อง ทราบว่าทำงานอยู่ที่ ประเทศมาเลเซีย ส่วนศพของนายภาษิต ก็จะส่งไปชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตอีกครั้งที่โรงพยาบาลหาดใหญ่อีกครั้ง
อีจันขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ
คลิปอีจันแนะนำ
ช่างภาพชี้แจง! ดราม่ารูปถ่ายงานหมั้น