หลังจากมีกระแสข่าวครึกโครม กับการออกหมายจับ 3 นายตำรวจ และ 1 พลเรือน รวมทั้งออกหมายเรียกนายตำรวจระดับ พล.ต.อ. 1 นาย โดยระบุว่า มีความผิดในคดีที่เส้นทางการเงิน พัวพันกับเว็บพนันนั้น
ล่าสุด นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ หนึ่งในทีมทนายความของพลตํารวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ถูกจับตามองว่า เป็นนายตำรวจที่โดนออกหมายเรียก ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า ในกรอบคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับ บิ๊กโจ๊กนั้น ศาลยกคำร้องไม่ออกหมายจับ เพราะศาลมองว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ที่จะออกหมายจับ และขอทำความเข้าใจเพิ่มว่า ทีมทนายตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่มีคำสั่งออกหมายเรียกใดๆออกมา ซึ่งหลังจากยกคำร้องแล้วขั้นตอนต่อไปนั้น หากพนักงานสอบสวนจะยังคงเดินหน้าต่อ ทางทีมทนายก็ได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า พนักงานสอบสวนปฏิบัติโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย เพราะเรื่องของการกล่าวหาในเรื่องของเส้นทางการเงินนี้ ได้มีการส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. แล้ว และมีมติกลับมาว่า ป.ป.ช.รับเรื่องของรองผบ.ตร. ไว้ไต่สวนแล้ว ดังนั้นทางพนักงานสอบสวนจะถือว่าทำไม่ถูก เพราะอำนาจในการพิจารณาจะอยู่กับทาง ป.ป.ช.
ทั้งนี้ต้องยกข้อกม.มาบอกว่า พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา 30 ประกอบมาตรา 28 ซึ่งอำนาจในการสอบสวนไม่ได้อยู่ที่พนักงานสอบสวน หากยังเดินหน้า อาจจะเข้าข่ายผิด ประมวลกฏหมายอาญา ม.157 หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่พนง.สส. ต้องรับผิดชอบกันเอง
ทั้งนี้ ทีมทนายได้รับมอบจากพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้มาชี้แจงว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ถูกกล่าวหา เรื่องการให้ผู้ใต้บังคับบัญชานำเงินไปใช้จ่ายอะไรก็ตาม นั่นเป็นเงินตัวเอง ไม่เกี่ยวกับเงินจากเว็บพนันอะไร พร้อมยืนยันว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ได้กระทำความผิดใดๆ ตามที่ถูกกล่าวหาในทุกคดีอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ทางทีมทนายยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นคดีเว็บพนันมินนี่ หรือเว็บพนัน BNKMaster ที่ต่อเนื่องมาจากการจับกุมเว็บพนันที่เตาปูนนั้น แม้จะเป็นคนละเว็บกัน แต่เส้นทางการเงินทั้งหมด เป็นเส้นทางเดียวกัน ซึ่งถ้าป.ป.ช.รับเรื่องเพื่อไต่สวนไว้แล้ว ก็จะถือว่าเส้นเงินทั้ง 2 ถือเป็นเส้นเงินเดียวกัน แต่การขอศาลออกหมายจับครั้งนี้ ทีมทนายมองว่า มีผู้ที่ต้องการจะแยกเรื่องเส้นทางการเงิน ที่มาจากคนละเว็บพนัน ออกมาเพื่อให้ดูเป็นเรื่องใหม่ อีกทั้งยังมองว่า การกระทำแบบนี้เป็นเข้าข่ายเป็นการดิสเครดิต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์หรือไม่ โดยเฉพาะการที่มีข่าวแบบนี้ ออกมาในช่วงที่ใกล้จะมีการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นแคนดิเดต อาวุโสอันดับหนึ่งด้วย อีกทั้งตัวพล.ต.อ.สุรเชษฐ์เอง ก็ยังไม่มีโอกาสในการเข้าชี้แจงกับทางป.ป.ช.เลย
อย่างไรก็ตาม การที่พนักงานสอบสวนมีการยื่นขอออกหมายจับในครั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำ และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์เอง ก็จะใช้สิทธิในการปกป้องตัวเองเต็มที่เช่นกัน
เรื่องนี้ยังไม่จบลงเท่านี้ ติดตามกันต่อไปครับ