เศร้า! นักเรียนนายสิบ ตชด. วิ่งจนตาย จากคำสั่งสุดโหดของครูฝึก

แม่ขอความเป็นธรรม หลังลูกชาย นักเรียนนายสิบ ตชด. ถูกสั่งโหดจากครูฝึก ให้วิ่งกว่า 10 กม. สุดท้ายไม่ไหวช็อกจนสิ้นใจ

วานนี้ (11 ต.ค. 66) น.ส.ณัฐริกา หรือพลอย เข้าร้องสื่อ หลังนายปกรณ์ หรือไบท์ สามารถสอบติด นายสิบตำรวจตระเวรชายแดน หรือ นสต.ตชด. และเข้ารับการฝึกที่ กองกำกับการ9 กองบังคับการฝึกพิเศษ ค่ายท่านมุก จ.สงขลา เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา ก่อนจะพบว่า ไบท์ เป็นลมหมดสติไป ในการฝึกวันที่ 9 ต.ค. 66 จากการสั่งของครูฝึก เบื้องต้นทราบชื่อครูฝึก คือ ส.ต.ท.ปัญญาวุฒิ  ค่ายท่านมุก พึ่งจบหลักสูตรครูฝึกมาใหม่ และเป็นครูฝึกที่สั่งการให้กลุ่ม นสต.ตชด. วิ่ง 10 กม.  

ทว่าหลังจากไบท์เป็นลม ซึ่งวิ่งไปได้แค่ 6 กม. ครูฝึกกลับสั่งให้เพื่อน หิ้วแขนทั้ง 2 ข้างของไบท์ แล้ววิ่งลากขาไปอีก 4 กม. ให้ครบระยะทาง 10 กม. ก่อน ไบท์ จะเสียชีวิตลงในที่สุด

ทำให้พลอย แฟนสาว ติดต่อหาเพื่อนของไบท์ จนรู้มาว่า 3 วันก่อนเกิดเหตุ ไบท์เริ่มมีไข้ และกินยาบรรเทาอาการ แต่ก็ไร้วี่แววจากทางครูฝึกว่าจะพาไปหาหมอที่โรงพยาบาล กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

พลอยเล่าต่อว่า หลังจากเกิดเหตุ ครูฝึกได้ติดต่อมาหาตน ถามว่าตนมีความสัมพันธ์อะไรกับ ไบท์ ตนจึงตอบไปว่า เป็นแฟน แต่สิ่งที่ครูฝึกตอบกลับมากลับมา คือเสียงหัวเราะ และพูดว่า “ไม่เป็นไรกำลังใจดีอยู่แบบนี้” ก่อนตนจะไปโรงพยาบาล เมื่อไปถึงก็เข้าไปจับเท้าของไบท์ แต่ว่า เท้าแข็งไปหมดแล้ว ซึ่งตนคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วตั้งแต่บนรถก่อนนำตัวส่งถึงโรงพยาบาล 

จึงเข้าไปสอบถามกับหมอ จึงรู้ว่า ไบท์มีชีพจรเต้นอยู่ก็จริง แต่ก้านสมองอาจตายไปแล้ว ซึ่งตนอยากให้ฝั่งครูฝึกออกมาชี้แจง ว่าเกิดอะไรขึ้น และมีการช่วยเหลือไบท์อย่างไร รวมถึงอยากให้ออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

ผู้สื่อข่าวได้คุยกับ น.ส.ปวิตรา หรือปุย พี่สาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอได้สงสัยว่า ทางครูฝึกไม่สงสัยหรือตรวจเช้คร่างกายของไบท์ก่อนเลยหรือ และฝากไปถามกับครูฝึกว่า “เขามีความรู้มากแค่ไหนว่าออกกำลังกายหนักมันจะทำให้กล้ามเนื้อสลายเป็นภาวะไตวาย” แล้วพอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาค่ายไม่มีความพร้อมที่จะช่วยหรือรับมือกับกรณีที่เด็กเป็นลมหมดสติ แล้วทำไมตอนที่น้องของตนหมดสติ ไม่นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ทำไม่ถึงไปส่งอีกโรงพยาบาลที่ไกลกว่าเดิม และที่สำคัญไม่มีการเรียกรถฉุกเฉิน แต่กลับใช้รถตำรวจในการนำส่งเอง เรื่องนี้ต้องให้ทางศูนย์ฝึกออกมาชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่โยนความผิดให้คนตาย

ด้าน นางเสาวนีย์ แม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ในช่วงเช้าที่ตื่นขึ้นมา ตนยังนั่งคิดถึงลูกอยู่ เพราะไปฝึกหลายวันแล้ว ผ่านไปไม่นานตนก็ได้รับสายแจ้งว่าลูกชายไม่สบายถูกนำส่งไปโรงพยาบาล เมื่อไปถึงก็พบว่าทีมแพทย์กำลังปั๊มหัวใจลูกชายตนอยู่ ตนก็ได้ภาวนาเพียงให้ลูกฟื้นขึ้นมา 

นางเสาวนีย์ บอกว่า คนที่มาพร้อมกับลูกของตนเล่าให้ฟังว่า ไบทืเป็นลมหมดสติ จึงนำมาที่โรงพยาบาล แต่ระหว่างทางไบท์มีอาการมือเกร็งจิก ตาเหลือกเมื่อสอบถามก็รุ้ว่าน้องขาดน้ำอย่างรุนแรง เลือดแห้งไปเลี้ยงสมองไม่พอ และมีอากรรกล้ามเนื้อสลายรวมถึงเลือดเป็นกรดซึ่งหลายอย่างมาก เมื่อรู้หัวใจตนก็แทบสลาย ออกมาจากห้องในดรงพยาบาลก็เป็นลมทันที 

ตอนนี้ตนยังไม่ได้ร้องไปที่ค่ายฝึก แต่ทางนั้นแจ้งมาว่าจะโทรกลับมาอีกครั้ง แต่ครอบครัวรอนาน ก้ไร้การติดต่อกลับ ซึ่งหลัจากนั้นก็นำร่างของน้องไบท์ มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ วัดสระเกษ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ซึ่งมีเจ้าหน้าที่มาบ้าง แต่คนที่บอกว่าจะติดต่อมากลับหายไปเลย 

นางเสาวนีย์ เปิดใจยังทำใจไม่ได้ เพราะจากที่จะไปเยี่ยมลูกที่โรงพยาบาล แต่กลับกลายเป็นต้องไปรับร่างไร้วิญญาณของลูกออกมาแทน ซึ่งวิงวอนอยากให้หน่วยฝึกของค่ายท่านมุกเอาใจใส่คนฝึกให้มากกว่านี้ เตรียมพร้อมที่จะรับคนฝึกที่เป็นลมอย่างทันท่วงที ไม่ใช่ลากปีกมาเป็นระยะทางไกลโดยที่ไม่ดูแล

ขอแสดงความเสียใจ ไปยังครอบครัวน้องไบท์ด้วยนะครับ อีจันเชื่อเรื่องนี้ต้องได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน

คลิปอีจันแนะนำ
ครูฝึกสั่งโหด? “นักเรียนนายสิบ วิ่งจนตาย”