จากกรณี มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก โพสต์ เรื่องราวพฤติกรรมของครูประจำชั้น โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ใช้ไม้เท้าค้ำยัน ตีหัวนักเรียน ป.1 จนหัวแตกเลือดไหล แต่ครูกลับให้เด็กโกหกผู้ปกครอง ว่าเดินชนตะปูในห้องน้ำ เพื่อหวังเบิกเงินประกันอุบัติเหตุ 300 บาท แต่ความจริงมาโป๊ะแตก เมื่อเด็กห้องเดียวกัน มาบอกว่าไม่ได้เดินชนตะปูในห้องน้ำ แต่ถูกครูใช้ไม้เท้าค้ำยันตี
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
นายประสิทธิ์ คำพันธ์ (ปู่น้องเติส) เล่าว่า วันที่ 19 ก.ค. 62 ไปรับหลานที่โรงเรียน เห็นหลานเดินมาในสภาพหัวแตกเลือดไหล จึงถามหลานว่าเป็นอะไร หลานก็ก้มหน้าแล้วตอบว่าชนตะปูในห้องน้ำ ต่อมาเด็กที่เรียนห้องเดียวกันมาบอกว่าน้องเติส ไม่ได้ชนตะปูในห้องน้ำ แต่ถูกครูใช้ไม้เท้าค้ำยันตีหัวแตก ตนจึงตัดสินใจไปสอบถามครูที่โรงเรียนด้วยตัวเอง จนครูยอมรับว่าได้ใช้เท้าค้ำยันตีหัวน้องเติสจริง แต่ไม่ได้ตั้งใจ แค่ตีเบาๆไม่คิดว่าจะถึงขั้นหัวแตก อาจจะตีไปโดนตรงน็อตที่ล็อคติดกับไม้เท้า
หลังจากนั้นครูก็ได้มาหาที่บ้าน พร้อมกันนม 2 กล่อง เพื่อเป็นการขอโทษแล้วก็ไม่ได้พูดคุยอะไรอีกเลย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เสียใจและติดใจ คือครูบังคับให้หลานโกหกผู้ปกครอง เพื่อต้องการจะปกปิดความผิดของตัวเอง โดยยืนยันว่าจะเอาเรื่องถึงที่สุด
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ล่าสุด วันนี้ (22 ก.ค. 62) นายสมศักดิ์ ชอบทำดี ศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ เผยว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานจากทางโรงเรียน หรือทางเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 เป็นลายลักษณ์อักษร และได้สั่งกำชับให้ทางเขตพื้นที่การศึกษา ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งหากผลการสืบข้อเท็จจริง พบมีมูลว่าครูที่ถูกกล่าวหา ได้กระทำการลงโทษเด็กนักเรียนรุนแรงเกินกว่าเหตุ ทางเขตพื้นที่การศึกษา ต้องตั้งกรรมการสอบเพื่อพิจารณาลงโทษทางวินัยตามกระบวนการขั้นตอน อย่างไรก็ตาม จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งกำชับให้ครู หรือบุคลากรสถานศึกษาทุกแห่งที่อยู่ในความดูแล ได้ใช้จิตวิญญาณของความเป็นครูในการอบรมสั่งสอน ดูแลนักเรียนเสมือนเป็นลูกหลาน อย่าใช้อารมณ์หรือความรุนแรง