น้ำโขงแห้งขอด เกิดปรากฏการณ์ หาดทรายเกล็ดพญานาค โผล่

น้ำโขงแห้งสุดในรอบ 50 ปี เกิดปรากฎการณ์ หาดทรายเกล็ดพญานาค โผล่กลางแม่น้ำโขง

จากสถานการณ์น้ำโขงลดระดับ จนแห้งผิดธรรมชาติในฤดูฝนหนักสุดในรอบกว่า 50 ปี
ซึ่งระดับน้ำโขง ณ ขณะนี้เหลือเพียง 1.90 เมตร และยังมีแนวโน้มที่จะลดระดับต่อเนื่อง เพราะฝนทิ้งช่วง บวกกับผลกระทบ การกักน้ำของเขื่อนกั้นน้ำโขง ประเทศจีน

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


จนล่าสุดวันนี้ (22 ก.ค.62) ปรากฎการณ์หาดทรายโผล่น้ำโขงนั้น สร้างความเดือดร้อนต่อการเดินเรือ และออกเรือหาปลาของชาวเรือของชาวบ้านเป็นอย่างมาก เนื่องจากหาดทรายท้ายเมือง หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่า หาดทรายทอง ศรีโคตรบูรณ์ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยว สำคัญ ในช่วงหน้าแล้ง เดือนมีนาคม ถึง เดือน เมษายน ทุกปี จะพบเห็นหาดท้าย เมืองโผล่ ในช่วงฤดูแล้งเท่านั้น
และมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ทุกปี ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้เที่ยว ชมพักผ่อน ธรรมชาติสองฝั่งโขง แต่ช่วงนี้ถือว่าผิดธรรมชาติ ในช่วงฤดูฝน แต่มีหาดทราย โผล่กลางน้ำโขง

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


ด้าน นายอาทิตย์ พนาศูนย์ อายุ 65 ปี ประธานชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จ.นครพนม เปิดเผยว่า ปีนี้ ถือว่าระดับน้ำโขง ผันผวนมากสุด ในรอบ เกือบ 100 ปี โดยจากการศึกษาข้อมูล พบว่าปัจจัยสำคัญมาจากโครงการก่อสร้างเขื่อน น้ำโขง ในประเทศจีน รวมถึง ใน สปป.ลาว
ทำให้ เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติ ถือเป็นสัญญาณอันตราย ในปัญหาขาดแคลนน้ำ จะกระทบรุนแรงมากขึ้น และยากที่จะแก้ไข เนื่องจาก ประเทศต้นน้ำมีการควบคุมระบบน้ำโขง จากเขื่อน ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ
ที่น่าห่วงมากที่สุดคือ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวลุ่มน้ำโขง จะเปลี่ยนไป ปลาน้ำโขง จะหายากมากขึ้น รายได้ลดลง เนื่องจากช่วงฤดูฝน เป็นฤดูกาลวางไข่ ธรรมชาติปลาน้ำโขง จะขึ้นไปวางไข่ ต้นน้ำ ลำน้ำสงคราม แต่น้ำโขงแห้ง ปริมาณปลาจึงน่าจะลดลงแน่นอน
ซึ่งชาวลุ่มน้ำโขงจะต้องรับสภาพ เพราะยากที่จะหาทางแก้ไข เนื่องจากเป็นผลกระทบที่เกิดจากการก่อสร้างเขื่อน ของประเทศจีน หากมีการแก้ไขหารือ ต้องเป็นระหว่างประเทศ จึงยากที่จะหาทางแก้ไข