แม่แทบขาดใจ ร่วมงานศพ น้องมด

แม่ร้ำไห้แทบขาดใจ ร่วมงานศพน้องมดนางฟ้า ฮุก 31

จากเหตุการณ์นางสาวมาริษา วิลัยกรวด อายุ 22 ปี หรือ น้องมด นางฟ้าอาสากู้ภัยฮุก 31 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถพยาบาลหมายเลข 35 ลื่นไถลชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อเข้าอย่างแรง ขณะที่กำลังเดินทางไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ 19 รายจากอุบัติเหตุรถทัวร์คว่ำ บนถนนสาย 24ในอำเภอ ปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา

เรื่องราวของเธอถูกแชร์ต่ออย่างสะพัดด้วยความอาลัยเนื่องจาก เธอเป็นเด็กสาวไฮสคูล อาศัยอยู่ที่ประเทศเยอรมนี และอาศัยช่วงวันหยุดช่วงซัมเมอร์นี้ กลับมาหาคุณยาย ที่ จ.นครราชสีมา ด้วยความคิดถึง แต่การกลับไทยของเธอในครั้งนี้เธอได้อาสาเป็นกู้ภัยฝึกงาน ที่กู้ภัยฮุก 31 ประจำจุดโพธิ์กลาง เนื่องจากน้องมดเป็นคนมีใจรักในการช่วยเหลือผู้อื่น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เธอตั้งใจเรียนรู้ และปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างดีมาโดยตลอด และสุดท้ายเธอก็ได้จากไปขณะทำงานที่ตนเองรัก

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (3 พ.ค.61) คุณแม่วาสนา วิทเซนเฮาเซอร์ เดินทางถึงประเทศไทย พร้อมด้วย นางสาวแพรวา ลูกสาวคนเล็ก และ มิสเตอร์ไฮซ์โค วิทเซนเฮาเซอร์ สามีชาวเยอรมัน พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยัง วัดใหม่อินทราราม ทันที เพื่อไปหาร่างไร้วิญญาณของ น้องมด ลูกสาวผู้ล่วงลับ แต่เพียงแค่ แม่ย่างก้าวเข้าสู่บริเวณวัด น้ำตาแห่งความเศร้าโศกที่กักเก็บมาตลอด ก็ถาโถมออกมาจนแทบขาดใจ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเห็นโลงศพที่บรรจุร่างของน้องมดอยู่ภายใน คุณแม่ ร่างกายของแม่ก็หมดเรี่ยวแรง เป็นลมหมดสติไป จนญาติๆต้องเข้าช่วยกันปฐมพยาบาล
ทางด้านพ่อเลี้ยงชาวเยอรมัน ถึงแม้จะไม่ใช่พ่อแท้ๆของ น้องมด แต่ก็รักน้องมด เสมือนลูกในไส้ของตัวเอง ตลอดเวลาที่อยู่ภายในงาน พ่อร่ำไห้ตลอดเวลา ยิ่งทำให้บรรยากาศภายในงานศพของ น้องหมด คละคลุ้งไปด้วยความเศร้า

คุณแม่ พูดถึงลูกสาวผู้จากไปพร้อมน้ำตา ว่า "น้องมด มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นพยาบาล มาโดยตลอด เพราะอยากช่วยเหลือสังคม และที่น้องมด สมัครเป็นอาสาสมัครฝึกงานของมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา เพราะต้องการใบผ่านการฝึกงานจากหน่วยกู้ภัยกลับไปประกอบการสมัครเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่ประเทศเยอรมัน แต่ขณะนั้นน้องฝึกงานจนครบชั่วโมงแล้วแต่ก็ยังไปช่วยทำงานกู้ภัยต่อระหว่างที่รอกลับไปอยู่กับแม่ในวันที่ 17 พ.ค. ที่จะถึงนี้ แต่ไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว"

เเละแม่ยังกล่าวต่อถึงอุบัติที่พรากชีวิตลูกสาวไปอย่างไม่มีวันกลับว่า "แม่ไม่ได้อยากโทษคนขับรถ เพราะเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุ และพร้อมที่จะให้อภัยคนขับรถกู้ภัยคันดังกล่าว เพียงแต่ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกสาวไม่ได้ จึงอยากให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกคนว่า อย่าขับรถเร็วและอย่าประมาท โดยขอให้น้องมดเป็นคนสุดท้ายที่ต้องเสียชีวิตจากเหตุการณ์แบบนี้” 

พิธีฌาปนกิจศพของน้องมด จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคมนี้ เวลา 16.00 น. ที่เมรุวัดใหม่อินทราราม