เมีย เปิดใจทั้งน้ำตา ผัวจะกลับไทย 20 มี.ค. นี้ แต่มาตายเสียก่อน

คืบหน้าล่าสุด แรงงานไทยเสียชีวิตที่เกาหลี เมียเปิดใจทั้งน้ำตา ผัวจะกลับไทย 20 มี.ค. นี้ แต่มาตายเสียก่อน เร่งหาเงินนำร่างกลับไทย หากไม่ได้ก็ขอเถ้ากระดูกกลับบ้านเกิดก็ยังดี

จากกรณีสลด ที่แรงงานไทยในเกาหลี (ผีน้อย) เสียชีวิตในฟาร์มหมูที่ทำงาน แล้วนายจ้างกลัวความผิดนำศพไปทิ้งที่เชิงเขา

สลดแรงงานไทยผิดกฎหมายในเกาหลี เสียชีวิตสุดโดดเดี่ยวบนเขา

คืบหน้าล่าสุดวันนี้ (8 มี.ค. 66) ทีมข่าวอีจันลงพื้นที่ไปพบกับ นางลี (นามสมมุติ) อายุ 59 ปี ชาวบ้านทางขวาง ต.ทางขวาง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นภรรยาของ นายบี (นามสมมุติ) อายุ 67 ปี แรงงานไทย ที่ไปเป็นผีน้อย รับจ้างทำงานที่ฟาร์มหมูแห่งหนึ่งในเมืองโพชอน จ.คยองกี ประเทศเกาหลี และเสียชีวิตในฟาร์มดังกล่าว

นางลี เล่าว่า ก่อนจะทราบเหตุว่า นายบี เสียชีวิตนั้นไม่สามารถติดต่อสามีได้ จึงประสานคนไทยในประเทศเกาหลี ให้ไปตรวจสอบที่ฟาร์มที่สามีทำงานอยู่ และตำรวจไปตรวจสอบ จนพบศพนายบุญชูที่เชิงเขาใกล้ฟาร์ม ตำรวจจึงคุมตัว นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 60 ปี  เจ้าของฟาร์มไปสอบสวน จนทราบว่า นายเอ ไปพบนายบี นอนเสียชีวิตในที่พัก กลัวความผิด จึงนำศพใส่รถไถไปทิ้งที่เชิงเขา ตำรวจจึงแจ้งข้อหาทิ้งศพ

นางลี ยังเล่าอีกว่า สามีไปทำงานที่ประเทศเกาหลีได้กว่าสิบปีแล้ว เพราะครอบครัวยากจน สามีต้องการทำงานหาเงินมาใช้หนี้ และสร้างฐานะให้ครอบครัวอยู่ดีมีความสุข แต่สามีไปแบบนักท่องเที่ยว และแอบทำงาน เป็นผีน้อยทำงานในฟาร์มหมูที่จุดเกิดเหตุมาตลอด ในแต่ละวันสามีจะโทรศัพท์มาหามาคุย และในแต่ละเดือนจะส่งเงินมาให้ใช้หนี้และส่งลูกชายเรียนจนจบปริญญาตรี

ซึ่งขณะนี้ลูกชายเรียนจบแล้ว เข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ ลูกชายช่วยพ่อหาเงินใช้หนี้จนหมดแล้ว ลูกชายจึงขอร้องให้พ่อกลับบ้านตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่พ่อไม่ยอมกลับ เพราะพ่อต้องการหาเงินสร้างบ้าน ซื้อวัว ควาย และหมูมาเลี้ยง

โดยแต่ละเดือนที่สามีส่งเงินมาก็จะซื้อวัว ควายและหมูมาเลี้ยง โดยทุกครั้งที่สามีโทรศัพท์มาคุยจะบอกว่า ทำงานสบายและมีความสุขดี ขอทำงานเก็บเงินอีกสักก้อน ก็จะเดินทางกลับบ้านใน วันที่ 20 มี.ค. ที่จะถึงนี้ และก่อนที่สามีจะเดินทางกลับ ทางบ้านได้สร้างฟาร์มหมู วัว ควาย ไว้รอเรียบร้อยแล้ว

นางลี ยังเล่าทั้งน้ำตาอีกว่า “คุยกันครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ก็เพิ่งคุยกัน และวันที่ 1 มี.ค. ได้โทรหาสามีแต่ติดต่อไม่ได้ไปจนเลยไปอีกวันก็ติดต่อไม่ได้ ซึ่งผิดวิสัยเป็นอย่างมาก เพราะแต่ละครั้งที่โทรไปแม้ไม่รับสายทันทีก็จะโทรกลับมาคุยกันตลอด แต่เมื่อติดต่อสามีไม่ได้ จึงติดต่อคนไทยในเกาหลีให้ช่วยไปดู จนได้รู้ว่าสามีเสียชีวิตแล้ว และตำรวจก็จับเจ้าของฟาร์มไปดำเนินคดีแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ครอบครัวต้องการก็คือ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือบ้าง ก็รู้อยู่ว่าสามีเป็นผีน้อย เป็นแรงงานที่แอบทำงานอย่างผิดกฏหมาย แต่ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะต้องการรายได้มาเลี้ยงดูครอบครัว”

นางลี ยังกล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศติดต่อมาพูดคุย พร้อมกับสอบถามถึงความต้องการของครอบครัว จึงแจ้งไปว่าเป็นไปได้อยากได้ศพสามีกลับมาบำเพ็ญกุศลที่ประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่า มีค่าใช้จ่าย 11 ล้านวอน หรือประมาน 3 แสนกว่าบาทไทย  แต่ครอบครัวไม่มีเงิน จึงคุยกันในครอบครัวว่า วันที่ 11 มี.ค. ที่จะถึงนี้ ตนและลูกชายจะเดินทางไปที่เกาหลี เพื่อนิมนต์พระสงฆ์ไทยประกอบพิธีทางศาสนา เผาศพสามีให้เสร็จสิ้น จากนั้นจึงนำเถ้ากระดูกกลับมาที่ประเทศไทย เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับสามี และยังต้องหากู้เงินไปใช้จ่ายในการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ของกฏหมายในประเทศเกาหลี

ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นเงินจำนวนเท่าใด ในเบื้องต้นนั้น ทาง อ.แวงน้อยและผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้การช่วยเหลือมาเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท ซึ่งจะนำเงินก้อนนี้เป็นค่าตั๋วเครื่องบิน ที่จะบินไปประเทศเกาหลีในวันที่ 11 มี.ค นี้

ด้าน นางหนูเพียร อายุ 67 ปี พี่สาวของนางมะลิ กล่าวว่า ผัวเมียคู่นี้ รักกันมาก  แต่ด้วยครอบครัวยากจน สามีจึงเดินทางไปที่ประเทศเกาหลีและหางานทำ ส่งเงินมาให้ภรรยาใช้หนี้และส่งลูกชายเรียนหนังสือจนจบปริญญาตรี  เมื่อใช้หนี้หมดแล้ว ลูกเรียนจบแล้วก็ยังไม่ยอมกลับ เพราะต้องการหาเงินซื้อวัวควายและหมูมาให้ภรรยาเลี้ยง และทำฟาร์ม เพราะตั้งใจไว้ว่าเมื่อกลับจากเกาหลีจะมาทำฟาร์มวัว ควายที่บ้านตัวเอง แต่ก็มาเสียชีวิตก่อน

ซึ่งญาติพี่น้องไม่ติดใจ เพราะคิดว่า ร่างกายอาจจะอ่อนแอ อากาศหนาวกระทบกับร่างกาย จนเสียชีวิตได้  ตอนนี้ขอเพียงรับศพกลับมาที่บ้าน ถ้าค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ก็ให้ภรรยากับลูกไปเผาศพที่เกาหลี แล้วเอาเถ้ากระดูกกลับมาบ้าน ญาติพี่น้องจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้

อีจัน ขอแสดงความเสียใจให้กับครอบครัวอีกครั้งนะครับ

คลิปอีจันแนะนำ
ขอเพียงเถ้ากระดูก กลับบ้าน ผีน้อยไทยดับถูกนายจ้างทิ้งศพบนเขา