ทำไม “วิสามัญ” พ่อค้าผลไม้ เมืองคอนฯ

ทำไม “วิสามัญ” พ่อค้าผลไม้ เมืองคอนฯ
นาทีต่อนาที เหตุวิสามัญพ่อค้าผลไม้ อะไรคือชนวนเหตุ ถึงขั้นต้อง “วิสามัญ” ยาบ้าที่พบ 107 เม็ด เป็นของคนร้าย จริงหรือไม่ ในเมื่อวันนี้ “คนตายพูดไม่ได้” ย้อนเหตุการณ์ หาหลักฐานนาทีต่อนาที

กลางดึกของวันที่ 1 พ.ค.2561 เวลา 20.00 น.
เสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะๆ กลางถนนหลวง ..ตำรวจชุดสืบ สภ.พหรมคีรี กำลังติดตามไล่ล่า รถกระบะที่ถูกระบุว่า เป็นคนร้าย ทราบชื่อ นายประภวิษณุ์บุญเนือง อายุ 44 ปี รถเป้าหมาย กระบะ ยี่ห้ออิซูซุ ดีแมกซ์ ตอนครึ่ง สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ผจ- 4099 นครศรีธรรมราช ขณะนั้น มีรายงานถึงผู้บังคับบัญชาว่า กำลังติดตามไล่ล่าจับกุมคนร้ายแก๊งค้ายาบ้า ที่สำคัญคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ สภ.พรหมคีรี

กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ชปส.จาก สภ.พรหมคีรี และรถยนต์กระบะตำรวจชุดสืบสวนรวมจำนวน 3 คันขับติดตาม ตลอดทางจากจุดบริเวณศาลาทางขึ้นน้ำตกในเขียว อ.พรหมคีรี จนถึง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ท่ามกลางความมืด ปืนหลายกระบอกส่องไปยังล้อรถและยิงสกัดเพื่อให้รถหยุด  แต่คนร้ายก็ไม่มีท่าทีจะหยุดรถ ล้อยางรถกระบะเป้าหมาย ถูกยิงเข้าที่ ล้อด้านซ้ายหน้าแตกออก แต่คนร้ายยังไม่หยุด กลับขับเลี้ยวหัวรถกลับมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองนครศรีธรรมราชอย่างช้า ๆ โดยขับผ่านตลาดดอนคา อ.พรหมคีรี มีชาวบ้านเห็นและบันทึกภาพเก็บไว้ 

นายประภวิษณุ์ ยังคงประคองขับรถต่อไป ผ่านวงเวียนน้ำตกพรหมโลก จากนั้นขับผ่านแยกไฟแดงหน้า ม.ราชภัฎนครศรีธรรมราช แยกไฟแดงบ้านตาล แยกไฟแดงชลประทานท่าดี และแยกไฟแดงสี่แยกเบญจม. มุ่งเข้าสู่ถนนกระโรม เข้าสู่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช ก่อนเลี้ยวหัวกลับบริเวณหน้าแขวงการทางนครศรีธรรมราช
ตลอดเส้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้อาวุธปืนยิงสกัดผู้ต้องหามาเป็นระยะๆ (จากคำบอกเล่าของชาวบ้านที่พบเห็นและได้ยิน) จากนั้นนายประภวิษณุ์ ได้ขับรถมุ่งหน้ากลับมาทางสี่แยกเบญจมฯ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสายนาพรุ ขณะที่ นายประภวิษณุ์ ขับขี่รถคันดังกล่าวมาจนถึงบริเวณจุดกลับรถบ้านวังรัก ม.5 ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จุดนี้ จนท.ตร ทำการปิดกั้นถนนไว้ทั้ง 2 ด้าน ทั้งขาเข้า ขาออก

วินาทีนั้น นายประภวิษณุ์ ตัดสินใจวนรถกลับ ยังจุดกลับรถบ้านวังรัก เพื่อมุ่งหน้ากลับมายังสี่แยกเบญจมฯ ขณะนั้นเอง จนท.ตร ที่สแตนบายรออยู่ได้ตัดสินใจทำการระดมยิงเข้าใส่ล้อรถยนต์ทั้งสี่เส้นของผู้ต้องหา เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ควันพวยพุ่ง เป็นเหตุให้รถเสียหลัก หมุนคว้างชนกับเกาะกลางยูเทิร์นโดยหันหัวไปทางนาพรุ ในลักษณะย้อนศร ขณะที่เหตุการณ์กำลังชุลมุนอยู่นั้น สัญญาณความตายกำลังมาถึง เพชฌฆาตได้อาศัยจังหวะยิงเข้าไปยังภายในตัวรถ 1 นัด บริเวณกระจกด้านซ้ายหน้า ผ่านเข้าลำตัวบริเวณใต้ราวนมซ้าย ตัดขั้วหัวใจ ของนายประภวิษณุ์ ทะลุด้านล่างฝั่งประตูคนขับ เป็นเหตุให้นายประภวิษณุ์ ถูก จนท.ตร วิสามัญฆาตกรรมในที่สุด

เสียงปืน สงบลง การยิงต่อสู้สิ้นสุด คนร้ายหยุดรถ ทุกอย่างหยุดนิ่งไปชั่วครู เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่า ยังซุ่มสังเกตุการณ์ไปยังรถคนร้าย เพราะไม่แน่ใจว่า คนร้ายในรถมีกี่คน และถูกยิงเสียชีวิตแล้วหรือไม่ จึงขอกำลังสนับสนุนในที่เกิดเหตุ หลังรับแจ้งจึงประสาน พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช นำกำลังตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้งโล่เพื่อมาช่วยตรวจสอบ มายังจุดเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออิซูซุ ดีแมกซ์ ตอนครึ่ง สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ผจ- 4099 นครศรีธรรมราช จอดอยู่ชิดเกาะกลางจุดยูเทิร์นฝั่งขาเข้าเมือง โดยพบยางล้อรถทั้ง 4 เส้นถูก จนท.ยิงจนแตกระเบิดทั้ง 4 ล้อ ด้านข้างรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวามีรอบกระสุนปืนจนฉีกขาดเกือบ 10 แห่ง ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันชาวบ้านนับร้อยคนที่แห่มาห้อมล้อมมุงดูเหตุการณ์ด้วยความสนใจ ให้ถอยห่าง

จากนั้น พ.ต.อ.โชคดี ได้สั่งให้ตำรวจ นปพ.จำนวน 4 นายพร้อมโล่ห์เป็นเกราะกำบังบุกเข้าไปประชิดรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ซึ่งยังจอดติดเครื่องยนต์อยู่ ประตูปิดล็อคอย่างแน่นหนา กระจกปิดทุกด้าน ติดฟิมล์ปรอทจนมองข้างในไม่ค่อยเห็น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตะโกนเรียกให้คนในรถเปิดประตูแต่ทุกอย่างเงียบไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ค้อนทุบกระจกรถด้านข้างคนขับจนแตกและดึงล็อคประตูรถเปิดออกมาได้

ภายในรถกระบะคันดังกล่าว จนท.ได้พบศพผู้เสียชีวิต1ราย นอนหงายศีรษะเอนไปทางด้านซ้ายตรงเบาะที่นั่งคนขับในชุดสวมเสื้อยืดคอกลมสีแดง นุ่งกางเกงขายาวสีเทา ที่เอวด้านหน้าได้เหน็บซองอาวุธปืน1ซอง โดยสอบสวนทราบชื่อผู้ตายในภายหลังคือนายประภวิษณุ์ บุญเนื่อง อายุ 44 ปี อยู่ ต.อินคีรี อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช โดยมีอาวุธปืนขนาด .38 ของนายประภวิษณุ์ ผู้ตายตกอยู่ในช่องประตูรถด้านขวา อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่กล้าเข้าไปตรวจสอบชันสูตรพลิกศพเนื่องจากเป็นคดีวิสามัญฆาตกรรม จึงแจ้งผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางมายังที่เกิดเหตุ

 ต่อมาพ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที, พ.ต.อ.เชิดชัย โชติสุทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช, พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก., พ.ต.ท.นิติ บุญจันทร์ รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.ณัฐวิทย์ โอทอง รอง ผกก.ป.,พ.ต.ท.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน รอง ผกก.สส.,พ.ต.ท.วันชัย สุวรรณรัตน์ สว.สส. ,พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย สวป.เจ้าหน้าที่อัยการจังหวัด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมือง แพทย์ เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าทีมูลนิธิประชาร่วมใจ รีบรุดมาร่วมสอบสวนในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดตามขั้นตอนของกม.

แต่ก่อนที่จนท.จะเข้าตรวจสอบชันสูตรพลิกศพนายประภวิษณุ์ ผู้จนท.เกรงว่า ตายอาจจะพกพาระเบิดติดตัวมด้วย ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายได้ จึงประสานเจ้าหน้าที่ชุดกู้ระเบิด หรือ EOD กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราชมาตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อนจนแน่ใจว่าไม่มีวัตถุระเบิดอยู่ภายในรถจึงอนุญาตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ เข้าไปยกศพนำออกมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอนของกม.

โดยพบว่านายประภวิษณุ์ ถูกยิงด้วยกระสุนปืนยังไม่ทราบชนิดและขนาดเจาะเข้าที่บริเวณหน้าอกซ้ายกระสุนตัดขั้วหัวใจ 1 นัด และจากการตรวจค้นภายในรถจนท. ยังพบยาบ้าห่อกระดาษซุกซ่อนอยู่ในรถของนายประภวิษณุ์จำนวน 107 เม็ด

ภายในรถ ยังพบอาวุธปืนขนาด.38 เป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียน มีกระสุนปืนบรรจุอยู่ภายในเพียง 4 นัด ผ่านการใช้งานไปเพียง 1 ลูก ซึ่งกลายเป็นประเด็นคำถาม ถึงลักษณะของการยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจของผู้ตาย จนนำไปสู่การวิสามัญในครั้งนี้

ภายในรถพบหมอน ผ้าห่ม เสื้อผ้า และเครื่องมือช่าง บริเวณท้ายกระบะ มีผลมะพร้าวมากกว่า 10 ผล มีจอบ และกระสอบติดมาด้วย ซึ่งตรงกับคำยืนยันของชาวบ้านที่ทราบข่าวว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายนั้นเพิ่งลงมาจากสวนเพื่อไปเก็บมะพร้าวก่อนมีปัญหากับภรรยาทางโทรศัพท์และนำไปสู่การแจ้งเหตุในครั้งนี้

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังนำศพออกจากรถ น.ส.ฐานิตย์ หริกจันทร์ อายุ 35 ปี ข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใจ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นภรรยาของนายประภวิษณุ์ ผู้ตายพร้อมด้วยญาติ ๆ เดินทางมาร่วมในที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่านายประภวิษณุ์ ผู้ตายมีอาชีพเปิดแผงรับซื้อผลไม้ และเป็นหมอดูไพ่ยิบซีชื่อดัง ซึ่งนายประภวิษณุ์ ผู้ตายได้มีเรื่องทะเลาะกับ น.ส.ฐานิตย์ ภรรยาอย่างรุนแรง น.ส.ฐานิตย์ ภรรยาจึงหอบลูก 2 คนกลับมาอยู่ที่บ้านพ่อแม่ ใน ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช จนกระทั่งนายประภวิษณุ์ ผู้ตายขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวตามภรรยามา โดยอยูในอาการเหมือนคนเมายาเสพติดพยายามขู่จะใช้อาวุธปืน.38ที่พกมาด้วยยิง น.ส.ฐานิตย์ ซึ่งญาติ ๆ ของนส.ฐานิตย์ จึงโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พรหมคีรี ท้องที่เกิดเหตุมาช่วยระงับเหตุ

หลังรับแจ้งทางตำรวจสายตรวจป้องกันปราบปรามสภ.พรหมคีรี จึงพร้อม ร.ต.อ.ประทีป สัมพันธมาศ รอง สส.สภ.พรหมคีรี ได้นำกำลังตำรวจเดินทางไปตรวจสอบและระงับเหตุ แต่นายประภวิษณุ์ผู้ตายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะขับรถยนต์กระบะหลบหนี มุ่งหน้าเข้า อ.เมือง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พรหมคีรี จึงขับรถไล่ติดตามจับกุมอย่างกระชั้นชิด โดยถูกนายประภวิษณุ์ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ จนท.ตำรวจเป็นระยะๆ จนเข้าเขต อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และมาถึงที่เกิดเหตุบนถนนสายเบญจมฯ-นาพรุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้ปืนยิงใส่ยางล้อรถจนระเบิดทั้ง 4 ล้อ แต่นายประภวิษณุ์ ยังไม่ยอมหยุดรถและยังใช้ปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดสินใจยิงตอบโต้เข้าไปในรถกระสุนเจาะกระจกโดนนายประภวิษณุ์ เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

การวิสามัญฆาตกรรม กลายเป็นประเด็นคลางแคลงใจ เมื่อภรรยาของนายประภวิษณุ์ ได้ออกมาขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน โดยตั้งข้อสังเกตุถึงวิธีการไล่ล่า ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเป็นที่มาของการวิสามัญ และจุดจบของสามีตนเอง แม้ว่า น.ส.ฐานิตย์ หริกจันทร์ ภรรยา จะเป็นผู้แจ้งตำรวจให้เข้าตรวจสอบ สามีตนเองก็ตาม พร้อมตั้งข้อสังเกตุ ยาบ้าพบในรถ จำนวน 107 เม็ด ว่า จะเป็นของสามีตนเองจริงหรือไม่ แต่ทั้งนี้ น.ส.ฐานิตย์ ยอมรับว่า สามีตนเองเคยเสพยาบ้าแต่ไม่เคยเป็นผู้ค้า อย่างแน่นอน

บทความจาก : กิต์ดนัย ไชยนุรัตน์