(31 ก.ค. 62) ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ศาลชั้นต้น นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ อดีตผู้กำกับ สภ.บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี กับพวก จำเลยในฐาน ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตราย ต่อชีวิต ร่างกาย ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องจำยอมต่อสิ่งนั้น หน่วงเหนี่ยวกักขัง และ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ในกรณีอุ้ม นางสาวสุภัคสรณ์ พลไธสง หรือ หญิง สาวทอมอายุ 28 ปี จากอพาร์ตเมนต์ ซอยเพชรเกษม 114 พื้นที่ สน.หนองค้างพลู ไปฆ่าฝังดินที่จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2559
ภาพจากอีจัน
อ่านข่าว : เปิดปูมชีวิต น้องหญิง สาวทอม ถูกอุ้มฆ่าฝังดิน ที่ รีสอร์ทร้าง จ.กาญจนบุรี
อ่านข่าว : ไม่รอด! รวบอดีต ตร. ฆ่าน้องหญิงฝังดิน หนีคดีนาน 2 ปี
อ่านข่าว : จับเพิ่ม มืออุ้มฆ่าน้องหญิง
อ่านข่าว : รวบรายสุดท้าย! จ่าจิ๋ว หนึ่งในทีมอุ้มฆ่าฝังดินโบกปูน น้องหญิง สาวทอม ที่ จ.กาญจนบุรี
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ มีความสอดคล้องต้องกันกับคำกล่าวอ้างของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ว่าถูกข่มขู่และนำชี้ที่เกิดเหตุตามคำสั่งของตำรวจนั้น เลื่อนลอยไม่อาจหักล้างพยานโจทก์ได้ จึงพิพากษาว่ามีความผิดตามฟ้อง
ส่วน พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ อดีตผู้กำกับ สภ.บ้านโป่ง จำเลยที่ 4 กับจำเลยที่ 5 จากการนำสืบเชื่อได้ว่ามีเจตนาเพื่อสั่งสอนผู้ตายให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับจำเลยที่ 3 ที่ตนเองมีความสัมพันธ์เท่านั้น จึงพิพากษาให้มีความผิดฐานใช้ จ้างวาน กระทำการหน่วงเหนี่ยว กักขัง ข่มขืนใจ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย
ส่วนจำเลยที่ 3 พยานโจทก์มีเพียงการใช้โทรศัพท์ติดต่อกับพันตำรวจเอกอำนวย และยังพบข้อความผ่านแอพลิเคชั่น line ในเชิงหึงหวง ผู้ตายจึงเชื่อว่ายังมีความรักความห่วงใยกับผู้ตายอยู่พิพากษายกฟ้อง
ภาพจากอีจัน
โดยศาลพิพากษาจำคุก จำเลยที่ 1 และ จำเลยที่2 ประหารชีวิต ส่วนจำเลยที่ 4 จำคุก 15 ปี และจำเลยที่ 5 จำคุก 15 ปี แต่ จำเลยที่ 1,2 และที่ 5 รับสารภาพในชั้นสอบสวน จึงลดโทษให้เหลือ 1 ใน 3 โดยสั่งจำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 1และ 2 ส่วนจำเลยที่ 5 จำคุก 10 ปี ทั้งนี้ศาลยังให้จำเลยทั้งหมด ชดใช้ค่าเสียหาย เป็นเงิน 2,790,000 บาทแก่พ่อแม่ผู้ตาย
ภาพจากอีจัน
ด้านพ่อแม่ของผู้ตาย เปิดเผยหลังจากฟังคำพิพากษาว่า เคารพคำตัดสินของศาล และหลังจากนี้จะปรึกษาทนายความเพื่อยื่นอุทธรณ์ แต่อย่างไรก็ยังทำใจไม่ได้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะลูกสาวถือเป็นเสาหลักของครอบครัว