ช็อก! ตร.บุกทลายแหล่งผลิต ‘ครีมเถื่อน’ ผสมหลายยี่ห้อ กวนเองเป็นกะละมัง

กล้าใช้ได้ไง? สืบนครบาล ร่วมกับ อย. บุกทลายโรงงานผลิต ‘ครีมเถื่อน’ ผสมหลายยี่ห้อ กวนเองเป็นกะละมัง ยึดอุปกรณ์การผลิต ไม้พาย กระบวย หม้อต้ม ครบ

สร้างความฮือฮา เมื่อวานนี้ 6 ธ.ค.66 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ร่วมกับ นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ เภสัชกรวีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบนครบาล สน.บางมด และ อย.ร่วมกันจับกุมตัว นายฐิติวัชร์ สุทธิอภิโชคชัย อายุ 63 ปี

โดยถูกแจ้งข้อหาว่า บ้านเลขที่ 36/3 กับ 36/34

1.ขายเครื่องสำอางไม่จดแจ้งตามมาตรา 14 วรรคหนึ่ง ฝ่าฝืนมาตรา 32(1) มีโทษตามมาตรา 78 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

2.ขายเครื่องสำอางที่ไม่มีฉลากภาษาไทย ไม่เป็นไปตามมาตรา 22 วรรค 2(2) ฝ่าฝืนมาตรา 32(4) มีโทษตามมาตรา 68 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

บ้านเลขที่ 36/56

สถานที่ผลิตเครื่องสำอางปฏิบัติไม่สอดคล้องตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการผลิต หรือนำเข้าเครื่องสำอาง พ.ศ.2561 ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 14 วรรคสาม มีบทลงโทษตามมาตรา 63 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท

บ้านเลขที่ 36/57

1.พบการผลิตเครื่องสำอางปลอม ฝ่าฝืนมาตรา 27(2) ประกอบมาตรา 29(1) และ (4) มีบทลงโทษตามมาตรา 75 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 76 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามลำดับ

2.ผลิตไม่ตรงตามที่จดแจ้ง ฝ่าฝืนมาตรา 26 มีบทลงโทษตามมาตรา 71 ต้องระวางโทษปรับ 20,000 บาท

3.ฉลากแสดงข้อความที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญมาตรา 22 วรรคสอง (1) มีบทลงโทษตามมาตรา 67 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4.ผลิตไม่จดแจ้ง ฝ่าฝืนมาตรา 14 วรรคหนึ่ง มีบทลงโทษตามมาตรา 62 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

5.ไม่มีฉลากภาษาไทย ฝ่าฝืนมาตรา 22 วรรคสอง (2) มีบทลงโทษตามมาตรา 68 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ตรวจยึดของกลางกว่า หลายรายการ ดังนี้

  1. กะละมังผสมผลิตภัณฑ์ผิดกฏหมาย บรรจุของเหลวพร้อมนำไปบรรจุภัณฑ์ 11 ใบ

  2. พร้อมอุปกรณ์การผลิต จำพวก ไม้พาย, กระบวย, กะละมัง และหม้อต้ม หลายรายการ

  3. ผลิตภัณฑ์โลชั่นนวดฝ่าเท้า 83 แกลอน

  4. ผลิตภัณฑ์น้ำหอม เจลอาบน้ำ ผิดกฏหมาย จำนวน 580 ขวด (ผลิตในบ้าน)

  5. ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ 73 แกลอน

  6. ผลิตภัณฑ์น้ำหอม 2,976 ชิ้น

โดยมีพฤติการณ์คือ หญิงผู้เสียหายรายหนึ่งขอความช่วยเหลือผ่านเพจดัง และ พล.ต.ท.ธิติ ประสบอุบัติเหตุจากการทำงานในโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอถูกน้ำร้อนลวกใส่ ทำให้เป็นแผลเหวอะหวะทั่วร่างกาย หลังเกิดเหตุเธอได้รับเงินเยียวยาจากนายจ้างเพียงแค่ 1,000 บาท ซ้ำยังยื่นใบลาออกให้เธอเซ็นชื่อ จนถึงปัจจุบันนี้เธอยังไม่สามารถใช้ชีวิตเป็นปกติได้ และจากสภาพครอบครัวของเธอที่มีลูกอ่อนเพียง 2 เดือน ต้องพบกับความยากลำบาก จึงได้ขอความช่วยเหลือมาที่ พล.ต.ท.ธิติ ผ่านทางเพจชื่อดัง

เมื่อ พล.ต.ท.ธิติ เห็นสภาพเธอ จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ให้ความช่วยเหลือ โดยจากการสืบสวนแล้วทราบว่า สภาพภายในโรงงานที่เกิดเหตุนั้นมีเป็นบ้าน 2 ชั้น จำนวน 5 คูหา สภาพคับแคบและไม่มีระบบป้องกันความปลอดภัยใดๆ อีกทั้ง ยังทราบว่า เป็นโรงงานที่มีการลักลอบผลิต ผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย

ซึ่งต่อมาวันที่ 6 ธ.ค.66 พล.ต.ต.ธีรเดช จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สืบนครบาล, สน.บางมด และเจ้าหน้าที่ อย. ร่วม 40 ชีวิต นำหมายค้นศาลแขวงธนบุรีที่ 34, 35, 36 และ 37/2566 ลงวันที่ 6 ธ.ค.66 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 36/3, 36/6, 36/34, 36/56 และ 36/57 แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กรุงเทพฯ

ผลการตรวจค้นพบของกลางผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฏหมายหลายรายการ โดยขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพบพนักงานหลายรายอยู่ในสภาพ นั่งเทผลิตภัณฑ์บรรจุลงแกลลอน ไม่สวมสิ่งป้องกันใดๆ กวนกับไม้พายกับพื้น สภาพสกปรกไม่เหมือนกับภาพที่แสดงตามสื่อโซเชียล ที่คนงานใส่ชุดขาวสวมหมวก ถุงมือยางกันสิ่งเจือปนผลิตภัณฑ์อย่างมีมาตรฐาน เรียกได้ว่าไม่ตรงปกแบบสุดๆ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดของกลางหลายรายการ ก่อนจับกุมตัว นายฐิติวัชร์ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางมด ดำเนินคดีตามกฏหมาย และจะประสานงาน หน่วยงานแรงงานดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ ในชั้นจับกุม นายฐิติวัชร์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมแจ้งว่า จะปรับแก้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ ผบช.น. ได้สั่งการด้วยตนเอง เพราะหากโรงงานเถื่อนแห่งนี้ไม่ถูกปราบปราม จะเป็นภัยต่อพี่น้องประชาชนโดยทั่วไป อีกทั้ง กระบวนการผลิต ก็ไม่ได้มาตรฐานมีความสกปรก และลูกจ้างในโรงงานก็ได้รับความเสี่ยงเพราะขาดอุปกรณ์ป้องกันเพื่อความปลอดภัย ทำให้มีลูกจ้างสาวเคราะห์ร้ายประสบอุบัติเหตุ จนเป็นแผลน้ำร้อนลวกตามร่างกาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงขอเตือนไปยังโรงงานเถื่อนอื่นๆ ที่ยังแอบผลิตสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ให้เลิกผลิตเพราะสร้างความเสียหายกับสังคม

คลิปอีจันแนะนำ
อีจุ๊ รับจ้างเคลียร์บ้านผี