จับเขมร ลอบตัดไม้พะยูงป่าฝั่งไทย ไปขายฝั่งกัมพูชา

(6 ส.ค. 62) เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ, เจ้าหน้าที่ ร้อย ฉก.ตชด.๒๑๔, เจ้าหน้าที่ ทพ.กรม ๒๖ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวเชด ร่วมกันลาดตระเวนเชิงคุณภาพ Smart Partrol ชุดที่ ๔ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าร่วมกันจับกุมตัว นาย ลี ลอน ชาวกัมพูชา อายุ ๑๗ ปี ชาวบ้านตะเกียมเมี๊ยะ ต.ตะเปียงไปร อ.อัลลองเวง จ.อดรมีชัย ที่บริเวณป่าทิศใต้อ่างเก็บน้ำทำนบ ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ

โดยตรวจยึดของกลาง เป็นไม้พะยูงและอุปกรณ์ในกระทำผิด คือ ไม้พะยูง จำนวน ๑๔ ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร ๐.๒๒๘ ลบ.ม. ค่าภาคหลวง ๓๐.๐๐ บาท ค่าความเสียหายของรัฐ ๙๓.๗๕๐ บาท , ขวาน จำนวน ๒ เล่ม, เลื่อยลันดา จำนวน ๒.ปื้น, เลื่อยตัด จำนวน ๒ ปื้น, พลั่ว จำนวน ๒ ด้าม, เสียม จำนวน ๑ ด้าม, ไฟฉายแบบคาดศีรษะ จำนวน ๔ อัน, เชือก จำนวน ๑ ม้วน, ผ้าใบกันฝน ๑ ผืน, เปล จำนวน ๓ ผืน, เครื่องดื่มชูกำลัง จำนวน ๒ กระป๋อง, กระป๋อง จำนวน ๒ กระป๋อง, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ๕ ซอง, สายผ้าดัดแปลงสะพายหลัง ๒ ชุด

นาย ลี ลอน ให้การว่า เข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ "ช่องกระบาลสมอ" โดยต้องเสียค่าผ่านทางให้แก่ ตชด.ของกัมพูชาคนละ 200 บาท เลยผ่านเข้ามาได้ เมื่อได้ไม้ตามที่ต้องการแล้วก็จะแบกสะพายหลัง เอาลงไปขายให้พ่อค้ารับซื้อไม้พะยูงในเขตของกัมพูชา กิโลกรัมละ 100 บาท

เจ้าหน้าที่ผู้จับกุม จึงแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ ฐาน ทำไม้ แปรรูปไม้ มีไม้แปรรูปหวงห้าม ครอบครองไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยมิได้รับอนุญาต , พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.๒๕๓๕ ฐาน ร่วมกันตัดโค่น ต้นไม้ หรือทำลายพฤษชาติอื่นในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ฐาน เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย

เจ้าหน้าที่จึงนำไม้พะยูงและอุปกรณ์ในการกระทำผิด ไปเก็บรักษาไว้ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทันฯ พร้อมบันทึกเรื่องราวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บัวเชด อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป