15 สิงหาคม 2562 ตำรวจกองปราบนำกำลังจับกุมตัว นายธวัชชัย ทองอ่อน อายุ 46 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ จ.226/2562 ในข้อหาออกเช็คที่ธนาคารไม่สามารถขึ้นเงินให้ได้ โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนคู้คลองสิบ เขตหนองจอก กทม.
ภาพจากอีจัน
การจับกุมสืบเนื่องจาก เมื่อช่วงต้นปี 2559 นายธวัชชัย อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช หรือที่ชาวบ้านในพื้นที่จะรู้จักกันดีในชื่อ "สจ.ดำ" ชักชวนผู้เสียหายรายหนึ่งที่เป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาออกแบบตกแต่งภายใน ให้นำเงินมาร่วมทุนทำธุรกิจด้วยกัน อ้างว่าบริษัท ศรีพรหม999 จำกัด ของตนเอง ชนะการประมูลรับเหมาจัดซื้อซื้อเครื่องถ่ายเอกสารของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ที่จะนำไปแจกจ่ายตามโรงเรียนต่างๆ 2,500 โรงเรียน จำนวน 2,500 เครื่อง ในวงเงินประมูล เครื่องละ 100,000 บาท รวมวงเงินทั้งหมด 250 ล้านบาท
ภาพจากอีจัน
ซึ่งนายธวัชชัย ยังอ้างอีกว่าตนเองสามารถจัดซื้อเครื่องถ่ายเอกสารได้ในราคาถูก ทำให้จะได้รับกำไรจากส่วนต่างของราคาเครื่องเอกสาร คิดเป็นเงินกำไรรวมกว่า 48 ล้านบาท พร้อมกับนำเอกสารที่อ้างว่าได้รับมาจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงบประมาณ เอกสารใบเสนอราคา และใบสั่งซื้อ มาแสดงให้ดูเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อนำเงินมาร่วมลงทุนด้วยเป็นจำนวน 15 ล้านบาท
ต่อมาผู้เสียหายได้มาทราบในภายหลังว่าบริษัทของนายธวัชชัย ไม่ได้เป็นผู้ชนะการประมูลโครงการดังกล่าว จึงพยายามทวงถามขอเงินลงทุนกลับคืน จนมีการนัดเจรจาตกลงกัน ก่อนที่นายธวัชชัย จะสั่งจ่ายเช็คเป็นจำนวนเงินลงทุนคืนให้ แต่เมื่อผู้เสียหายนำไปขึ้นเงินกลับพบว่าเช็คดังกล่าวไม่สามารถขึ้นเงินได้ นายธวัชชัยจึงเข้าแจ้งความกับ สน.หัวหมาก กระทั่งศาลออกหมายจับ
ภาพจากอีจัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายธวัชชัย กบดานซ่อนตัวอยู่ที่หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในพื้นที่ย่านหนองจอก กระทั่งจับกุมนายธวัชชัย ขณะนั่งรถยนต์หรูยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ท ป้ายแดง ออกมาบริเวณหน้าหมู่บ้านดังกล่าว 
ภาพจากอีจัน
สอบสวน นายธวัชชัย รับเพียงว่านำเงินของผู้เสียหายมาลงทุนจริง กระทั่งบริษัทของตนไม่ชนะการประมูลจึงคืนเงินผ่านเป็นเช็ค โดยไม่ทราบว่าเช็คนั้นไม่สามารถขึ้นเงินได้ แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากตรวจสอบประวัติของนายธวัชชัย พบว่าเคยถูกตำรวจกองปราบจับกุมตัวมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ในคดีฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารราชการ หลังหลอกผู้เสียหายซึ่งเป็นนักธุรกิจกลุ่มหนึ่งให้นำเงินมาร่วมลงทุนเป็นเงินจำนวนกว่า 29 ล้านบาท โดยอ้างว่าตนเองได้ชนะการประมูลรับงานจัดซื้อจัดจ้างของโครงการงบอุดหนุนเฉพาะกิจให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งมีพฤติการณ์คล้ายกับคดีดังกล่าว เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป