มอบตัวแล้ว แก๊งเถียงตำรวจ

มอบตัวแล้ว แก๊งเถียงตำรวจ

เข้ามอบตัวให้การภาคเสธขอต่อสู้คดีในชั้นศาล

จากกรณีกระหึ่มโซเชียล ตำรวจแจกใบสั่ง กลับถูกต่อยในการปฏิบัติหน้าที่จัดระเบียบจราจรตามนโยบายของจังหวัดระยอง และจากเหตุการณ์ ตำรวจถูกต่อย ทำให้กระแสสังคมติดตามในเรื่องที่เกิดขึ้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ พ.ต.อ.อรรฆพงษ์ สุนทรวิภาค ผกก. สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในกรณีที่เกิดขึ้นว่า ตามคลิปข่าวจะเห็นว่า ตำรวจจราจรของ สภ. มาบตาพุด ที่ออกใบสั่ง และถูกทำร้ายหรือต่อสู้ขัดขวาง วันนี้ทางพนักงานสอบสวน ได้เชิญตัว ผู้ที่ก่อเหตุ คือ นายพยอม แสงวันดี อายุ 32 ปี และนางหทัยรัตน์ สมถวิล อายุ35ปี รวม 2 คน ที่เห็นตามภาพในคลิปดังกล่าว มารับทราบข้อกล่าวหาดำเนินคดี ซึ่งเบื้องต้นทั้งสองคนให้การปฏิเสธ พนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป พ.ต.อ.อรรฆพงษ์ ฯ กล่าวอีกว่า สำหรับข้อหาที่ ทั้งสองปฏิเสธ คือดูหมิ่นและขัดขวางต่อสู้เจ้าพนักงาน ขณะปฏิบัติหน้าที่ และในส่วนของระยะเวลาในการดำเนินคดี จะอยู่ในห้วงของการฝากขังได้ 4 ผลัด ก็คงจะใช้ระยะเวลาอีกไม่นาน ซึ่งขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานตามที่ต่างๆ ทั้งคลิปของชาวบ้านบ้าง คลิปของตำรวจบ้าง ไว้ได้พอสมควรแล้ว

สำหรับผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด ที่คาดว่ามีประมาณ 6-7 คนในวันก่อเหตุ เจ้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีทุกคน ไม่มีการละเว้นใดๆทั้งสิ้น เบื้องต้นเอา ที่เห็นชัดเจนในคลิปก่อน ก็คือนายอิทธิพล สมถวิล อายุ18 ปี ที่เป็นลูกชาย ของนายพยอม กับ นางหทัยรัตน์ผู้เป็นแม่ ซึ่งดูแล้วค่อนข้างชัดเจนตามพยานหลักฐานในคลิป มาแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่ไปแล้วตั้งแต่วันแรก คือ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

สำหรับคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก็จะดำเนินการโดยเร่งด่วน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งหมด ส่วนในวันนี้ผู้ก่อเหตุไม่ต้องประกันตัว เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อไป เขาก็เข้ามา หลังจากแจ้งข้อกล่าวหาก็ปล่อยตัวไป ขณะที่ทางด้าน น.ส.หทัยรัตน์ฯ หญิงในคลิปและเป็นแม่ของนายอิทธิพล หนุ่มเลือดร้อน ที่ต่อยตำรวจ ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เหตุการณ์ในวันนั้น เราจอดรถในที่ห้ามจอด ที่นี้ลูกน้องก็ได้เดินมา บอกว่าตำรวจ จะมาเขียนใบสั่ง ตำรวจเขาก็เลยบอกว่าให้ขยับรถออกไปหน่อย เพราะว่า มันขวางตรงทางยูเทิร์น พอดี ก็เลยไปขยับไปตรงเส้นขาวแดง และให้เขาเขียนใบสั่งมาให้แต่ว่า เขา ก็ไม่เขียน แต่พอเราบอกว่าให้เค้าเขียนใบสั่งมา เขาก็ขอตรวจค้น ตัวนายพายัพ แสงดี อายุ 23 ปี ญาติที่อยู่ในเหตุการณ์ แฟนก็เลยบอกว่าก่อนจะตรวจค้นให้แสดงความบริสุทธิ์ใจก่อน ที่นี้ก็เกิดการไม่พอใจกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็พยายามให้เรา ลงจากรถ และกระแทกประตูรถเข้ามา 1 ครั้ง ทีนี้พอปิดประตูปุ๊บ ทางเราก็เริ่มถ่ายคลิปบ้าง และเริ่มมีปากเสียงกับทางตำรวจ แรงขึ้นๆ และตนก็ถูกผลักที่หน้าอกด้วย แต่ก็ไม่เซไม่ได้ไถลอะไร ตนจึงเริ่มด่าหนักขึ้นและแรงขึ้น ตามคลิปที่เห็น พอถึงตอนนั้นทางตำรวจก็เริ่มสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยกันถ่ายคลิปไว้บ้าง และคลิปที่เผยแพร่อยู่ตามโซเชียลขณะนี้ก็เป็นคลิปของตำรวจ ซึ่งจำได้ว่าตำรวจเป็นคนถ่าย

น.ส.หทัยรัตน์ ฯ เผยอีกว่า ตนเข้าใจว่าทำผิด แต่ก็อยากให้สังคมเข้าใจด้วยเหมือนกันว่า ทำไมเราถึงต้องทำอย่างนั้นกับเขา เพราะเขามากระทำกับเราก่อน และเราถูกกระทำ และเขาจะเข้าจับกุม เราก็ไม่ยอมให้เขาจับกุม เพราะไม่ได้มีความผิดอะไรร้ายแรง ถึงขนาดต้องมาจับกุม ส่วนตนก็จะมาแจ้งความกลับด้วย ส่วนในวันนี้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเดียวคือ ร่วมกัน ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ซึ่ง ได้ปฏิเสธในข้อกล่าวหานี้ กับแฟนไปแล้วขอต่อสู้ในชั้นศาลเพียงอย่างเดียว ฝ่ายสามีนายพยอม แสงวันดี อายุ32 ปี ได้กล่าวด้วยว่า วันนี้รับสารภาพในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน เพราะใช้คำพูดที่แรงเกินไป แต่ต่อสู้ขัดขืนเจ้าพนักงานขอให้การปฏิเสธคือรับภาคเสธ พร้อมกับมีคำถามว่าจอดรถในที่ห้ามจอดจำเป็นด้วยหรือที่ต้องล็อคตัว จึงปฏิเสธในข้อนี้
ด้านนายอิทธิพล สมถวิล อายุ18 ปี หนุ่มเลือดร้อน ลูกชายนายพยอม และน.ส.หทัยรัตน์ กล่าวกับทีมข่าวว่า เหตุการที่เกิดขึ้นเกิดจากบันดาลโทษะ ในขณะที่เกิดการชุลมุน เป็นห่วงแม่ที่กำลังท้องได้3 เดือน จึงไปผลักเจ้าหน้าหน้าที่ออกให้ห่างจากแม่ เท่านั้นก็เลยเกิดการกระทบกระทั้งกันตามคลิปที่เห็น ขณะเดียวกัน นายพายัพ แสงวันดี อายุ 23 ปี ที่อยู่ 118/1 มา.9 ต.ตลิ่งชันอ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย หนุ่มที่นั่งมาด้วยในรถกระบะคันดังกล่าว ได้เผยอีกว่า สื่งที่เกิดขึ้นถ้าย้อนเวลาได้ก็ไม่อยากให้เกิด ณ ตอนนี้ก็ต้องตกงาน เนื่องจากพอเกิดเหตุคลิปหลุดกระหึ่มโซเชียลทางบริษัทต้นสังกัดได้สั่งให้หยุดงานในทันทีโดยแจ้งว่านำชุดพนักงานที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุไปก่อเหตุทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทเสียหายขอระงับการจ้างงานไว้ก่อน ทุกวันนี้เดือดร้อนหนักมาก สำหรับเรื่องการข่มขู่ป้าจ่อยผู้ก่อเหตุทั้งหมดให้การปฏิเสธในข้อกล่าวหานี้

อย่างไรก็ดีในวันนี้ได้มี รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองมาบตาพุด พร้อมกลุ่มชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุดได้นำดอกกุหลาบมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มาบตาพุดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไปด้วย

ณ เวลานี้ แจ้งข้อหาแล้ว 3 คน คือพ่อแม่ลูก คนอื่นอยู่ระหว่างดำเนินการตามพยานหลักฐาน ข้อหา 2 ข้อในเบื้องต้นนี้ คือ ดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และ ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน