อาชีพหลอกคนรวยทำบุญรายได้หลักแสน

สารภาพเลือกเหยื่อโดยอาศัยความเชื่อ และความรวย กองปราบรวบได้

ตำรวจกองบังคับการปราบปราม จับกุมตัว นายธนวิทย์ อึ้งเจริญธรรม อายุ 45 ปี ในข้อหา ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลอกหลวงเอาเงินจากเจ้าของบริษัท ห้างร้าน โรงงานต่างๆ ในหลายท้องที่ โดยอ้างว่าจะนำเงินดังกล่าวไปทำบุญ มีผู้เสียหายจำนวนหลายราย

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่งว่า ตนเป็นเจ้าของบริษัทอีกแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ต้องการจะเชื้อเชิญผู้เสียหาย ให้ร่วมทำบุญสร้างวัด กองละ 50,000 บาท ซึ่งบริษัทที่ตั้งอยู่ละแวกนี้ได้ร่วมทำบุญหมดแล้ว เหลือกองสุดท้าย ผู้ต้องหาได้พูดจาหลอกลวงจนผู้เสียหายหลงเชื่อ ตกลงร่วมทำบุญเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท โดยผู้ต้องหาให้ผู้เสียหายนำเงินดังกล่าว มาให้ที่บริเวณหน้าบริษัทที่ผู้ต้องหาแอบอ้างว่าเป็นเจ้าของ เมื่อผู้ต้องหาได้รับเงินดังกล่าวแล้ว จึงได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ต่อมาผู้เสียหายได้ทำการตรวจสอบจึงทราบว่า ไม่มีการทำบุญดังกล่าวจริง และผู้ต้องหาก็มิได้เกี่ยวข้องกับบริษัทที่แอบอ้างแต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.เทียนทะเล


ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุฉ้อโกงในลักษณะเดียวกันในหลายท้องที่ มีหมายจับในความผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” เช่นกัน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา


ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ศึกษาวิธีการก่อเหตุจากการดูข่าว โดยอาศัยความเชื่อทางศาสนา เป็นที่มาของการหลอกลวงว่าจะนำเงินทำบุญไปสร้างวัด ซึ่งการสร้างวัดตามความเชื่อของศาสนาพุทธถือเป็นการสร้างบุญกุศลใหญ่ และจะเลือกเหยื่อที่เป็นเจ้าของบริษัทที่น่าจะมีเชื้อสายจีน เนื่องจากเป็นคนตรงไปตรงมา เชื่อใจคนง่าย โดยผู้ต้องหาได้ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวเรื่อยมา เฉลี่ยเดือนละประมาณ 5-10 ครั้ง ในพื้นที่ย่านบริษัทการค้า และโรงงาน เช่น บางปู สำโรง เยาวราช บางบอน พุทธมณฑล พระราม 2 สาทร นนทบุรี งามวงศ์วาน อยุธยา ฯลฯ

เคยได้เงินจากการหลอกลวงสูงสุดเดือนละ 200,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า ผู้ต้องหาก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง ความเสียหายมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000,000 บาท และยังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้แจ้งความ เนื่องจากเชื่อว่าเป็นการทำบุญสร้างวัดจริง ซึ่งหากผู้ใดเคยถูกผู้ต้องหาในคดีนี้หลอกลวงในลักษณะดังกล่าว สามารถติดต่อขอข้อมูลได้ที่ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม