พยัคฆ์ไพรสั่งสอบโครงการบ้านหรูทับที่ป่าสงวน

พยัคฆ์ไพรสั่งสอบโครงการบ้านหรูทับที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าหมายเลข 87

พยัคฆ์ไพรสั่งสอบโครงการบ้านหรูทับที่ป่าสงวน

11 พ.ค. 2561 ที่โครงการ Paim Springs Inspired ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า และหน.ชุดพยัคฆ์ไพร นายปรีชา แสงเทียน ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี นายอัครชัย เสรีลัดดานนท์ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จว.เพชรบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำกำลังกว่า 30 นาย เดินทางไป ที่โครงการ Palm Springs inspired ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ตรวจสอบจากกรณีได้รับการร้องเรียนจากนางปาณิสรา ฮอปกินส์ อายุ 53 ปี ว่าตนเองได้ซื้อบ้านในโครงการ Palm Springs inspired ของบริษัท ปาล์ม ฮิลส์โฮม จำกัด โดยผ่อนชำระให้ทางโครงการไปแล้วเป็นเงิน 6 ล้านบาทจากราคา 12 ล้านบาทเศษ ต่อมาตนเองได้นำบ้านเข้ากู้เงินกับสถาบันการเงินแต่ถูกฝ่ายสินเชื่อปฏิเสธหลังตรวจสอบพบว่า ที่ดินและบ้านดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าหมายเลข 87 ซึ่งได้ประกาศกฎกระทรวงให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติ ป่าหมายเลข 87 เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2524 สมัยนายบรรหาญ ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ซึ่งเมื่อตนเองได้ไปยื่นหนังสือให้ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี ตรวจสอบก็ได้รับหนังสือตอบกลับว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าหมายเลข 87 จริง ทำให้ตนซึ่งซื้อบ้านในโครงการดังกล่าวฯ ไม่สามารถนำบ้านไปทำธุรกรรมการเงินได้ และอาจได้รับความผิดฐานครอบครองบุกรุกป่า โดยในการลงพื้นที่ของชุดพยัคฆ์ไพรวันนี้ มีน.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ประธานชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพชรบุรี อดีต ส.ว. เพชรบุรี ในฐานะผู้ประสานการร้องเรียน พร้อมนายสุคนธ์ หนูภัคดี เจ้าพนักงานที่ดินชะอำ และนายพิษณุ เดชศรี กรรมการบริหาร บริษัทปาล์ม ฮิลส์โฮม จำกัด ร่วมให้ข้อมูล
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


แม้เจ้าพนักงานที่ดินสาขาชะอำจะยืนยันว่าได้ตรวจสอบพิกัดที่ดินกับกรมพัฒนาที่ดินแล้วว่า อยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าหมายเลข 87 แล้วก็ตาม แต่ก็ถูกหัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพรสวนกลับทันทีว่า การตรวจสอบโดยกรมพัฒนาที่ดิน ไม่เป็นไปตามกฏหมายเนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าไม้ที่ออกโดยกฏกระทรวง ต้องตรวจสอบกับแผนที่แนบท้ายกฏกระทรวงจึงจะชอบด้วยกฏหมายอีกทั้งยังต้องตรวจสอบว่าทับซ้อนอยู่ในเขตป่าไม้ถาวรหรือไม่ เนื่องจากเป็นเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยการเดินสำรวจ และยังต้องตรวจสอบจากภาพถ่ายดาวเทียมว่า ที่ดินที่ถูกเดินสำรวจมีการใช้ประโยชน์ในที่ดินหรือไม่ หากไม่ก็ถือว่าเป็นการออกไม่ชอบด้วยกฏหมาย

ภาพจากอีจัน

จึงขอให้ทางเจ้าพนักงานที่ดินส่งสารบบในการออกเอกสารสิทธิ์เพื่อทำการตรวจสอบ จากนั้นได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรวจสอบทางอากาศอีกครั้ง พบว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวยังมีการลุกล้ำเข้าไปในแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าหมายเลข 87 และแนวเขตป่าไม้ถาวรอีกหลายแปลง ดังนั้น ชุดพยัคฆ์ไพรจะทำการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ทุกแปลงที่ออกในแนวเขตพื้นที่ป่าไม้ดังกล่าวทุกแปลงอย่างละเอียดเพื่อแก้ปัญหาที่ถูกชาวบ้านในพื้นที่อีกหลายรายที่ได้ร้องเรียนมา