เผยแพร่เมื่อ : 13 ม.ค. 2564, 15:11
ลูกสาว นายวิโรจน์ แพะมือปืนระนอง วอนหน่วยงานเกี่ยวข้อง ช่วยเหลือขอรื้อฟื้นคดี ฆ่า สมาชิก อบต. บางริ้น หลังศาลฎีกาพิพากษา จำคุก 15 ปี ตำรวจร่วมกันใช้ไฟฟ้าช๊อตผู้ต้องหาให้รับสารภาพ
ภาพจากอีจัน
จากกรณีที่ศาลฎีกา อ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2560 คดีระหว่าง นายวิโรจน์ สุวรรณี โจทก์ที่ 1กับพวกรวม 3 คน กับ พ.ต.อ.รณพงษ์ ทรายแก้ว จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 14 คน ในคดีบังคับใช้ไฟฟ้าช็อตให้ นายวิโรจน์ สุวรรณี โจทก์ที่ 1 และ นายวินัย ขุนแผ้ว โจทก์ที่ 2 ให้การซัดทอด นายกรีฑา ยกย่อง โจทก์ที่ 3 (ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบางริ้น) ว่าเป็นผู้จ้างวานให้ใช้ปืนยิงนายเกษม คงตุก สมาชิกสภา อบต.บางริ้น เสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 254 โดยศาลฎีกา อ่านคำพิพากษาลับหลัง เห็นพ้องกับที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 คนละ 15 ปี คือ พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว อดีตรองผู้บัญชาการกองฎหมายและคดีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพ.ต.อ.อนุชน ชามาตย์ อดีตรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีและยกฟ้องจำเลยที่เหลืออีก 12 คน ทั้งนี้ จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ไม่มาฟังคำพิพากษา และศาลได้อ่านคำพิพากษาลับหลัง และเมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2560ที่ผ่าน ผู้ต้องหาทั้งสองได้เข้ามอบตัวที่ สภ.จังหวัดระนอง นางสาว อังศุมาลิน สุวรรณี หรือกิ๊บ ลูกสาว นายวิโรจน์ สุวรรณี นักโทษเด็ดขาดข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2545 ต้องโทษประหารชีวิต แต่คำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ได้บอกกับผู้สื่อข่าวเพจอีจันว่า ขณะนี้ ครอบครัวของตนเอง ต้องการขอรื้อฟื้นคดีที่ นายวิโรจน์ถูกตัดสินเป็นที่เด็ดขาดไปแล้ว เพราะเมื่อความจริงปรากฏชัดว่า ในชั้นสืบสวนพ่อของตนเองถูกตำรวจอุ้มไปและถูกทำร้ายร่างกายด้วยเครื่องช๊อตไฟฟ้าเพื่อให้รับสารภาพ และ ซัดทอดบุคคลต่าง ๆ จนเป็นที่มาของ จำเลยอีก 3 คน คือ คนขับรถที่พามือปืนไป คนหาปืน และ คนจ้างวาน ซึ่งระหว่างการสืบพยานพ่อของตนเองก็ต้องเข้าไปอยู่ในคุกเป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน กว่าที่ศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวออกมาสู้คดี ซึ่งศาลชั้นต้น และอุทธรณ์ตัดสินยกฟ้อง แต่ศาลฎีกากลับคำพิพากษา และ พิพากษาลงโทษนายวิโรจน์ พ่อของตนเองเพียงคนเดียว เมื่อปี 2558 และพ่อก็ต้องกลับเข้าไปอยู่ในคุกอีกครั้งจนถึงทุกวันนี้
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
นางสาวอังศุมาลินเล่าว่าระหว่างที่พ่อต้องอยู่ในคุกเพื่อต่อสู้คดี ทุกครั้งเวลาไปเยี่ยมพ่อที่เรือนจำ พ่อต้องให้เพื่อนนักโทษคอยพยุงออกมา เพราะเดินไม่ได้ ซึ่งเป็นผลจากการที่ถูกตำรวจใช้ไฟฟ้าช็อต และ ทำร้ายร่างกาย จนกระทั่งศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องพ่อและจำเลยที่ 3 พ่อขอตนเองก็ได้ฟ้องกลับตำรวจในข้อหาทำร้ายร่างกายใช้ไฟฟ้าช็อตผู้ต้องหาให้รับสารภาพ พร้อมบังคับให้ซัดทอด สมาชิก อบต.บางริ้น 1 คน ว่าเป็นผู้จ้างวานฆ่า “นายเกษม คงตุก” สมาชิกสภา อบต.บางริ้น เมื่อปี 2545ซึ่งประกอบด้วย พ.ต.อ.รณพงษ์ ทรายแก้ว จำเลยที่ 1 อดีตรองผู้บัญชาการกองกฎหมายและคดีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพ.ต.อ.อนุชน ชามาตย์ อดีตรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำเลยที่ 2 และพวกรวม 12 คน ซึ่งคดีนี้ พ่อได้ต่อสู้ในชั้นศาลยาวนานถึง 5 ปีกว่าจะตัดสินเป็นที่สิ้นสุดในศาลฎีกาเมื่อวันที่ 22 พ.ย.2560 ที่ผ่านมา
นางสาวอังศุมาลิน ยังกล่าวว่า พ่อไม่ได้เป็นมือปืนอย่างแน่นอน เพราะในวันเกิดเหตุพ่อของตนเองก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดระนอง แต่ไปดูเรื่องราคาหมูอยู่ที่จังหวัดนครปฐม และตั้งแต่เกิดมาตนเองยังไม่เคยเห็นพ่อใช้ปืน หรือยิงปืนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถึงแม้ว่าพ่อจะเป็นคนโผงผาง แต่พ่อก็ชอบช่วยเหลือคนอื่นให้ตนได้เห็นเสมอ ๆ
ภาพจากอีจัน
“จนถึงตอนนี้ ตนเองก็คิดว่า จะขอความเมตตาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือ และดูแลในเรื่องการรื้อฟื้นคดีให้กับพ่อด้วย เพราะมีหลายคนบอกว่า คำตัดสินที่ออกมาว่า ตำรวจผิดที่ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าบังคับให้พ่อตนรับผิดชอบ อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่พ่อถูกพิพากษาไป ซึ่งในส่วนตัวมองว่า มันเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะที่พ่อต้องรับสารภาพ เพราะถูกทำร้าย และกดดัน จึงอยากให้ หน่วยงานลงมาดูแล และเบื้องต้นอยากให้พ่อได้ออกมาจากคุกก่อน เป็นเรื่องแรก” นางสาว อังศุมาลิน กล่าวกับ เพจอีจัน