วันนี้(19 ส.ค. 62) น.ส.ชุติกา (ขอสงวนนามสกุล) ชาวต.แม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย น้องสาวต่างมารดาของอดีตพระสงฆ์รูปหนึ่ง เปิดใจแฉพฤติกกรมของพระรูปดังกล่าว ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชาย พ่อเดียวกันแต่ต่างเเม่ เจ้าของสำนักปฎิบัติธรรมชื่อดังใน ต.ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ มีญาติโยมที่ศรัทธาเดินทางเข้าออกวันละหลายสิบคน
น.ส.ชุติกา เผยว่า ตนเริ่มเข้ามาอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมนี้ตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งพระพี่ชายมาขอพ่อแม่ให้ตนไปอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรม เพราะมีพฤติกรรมเกเร ชอบเที่ยว พ่อแม่จึงยอมให้มาอยู่ เพื่อจะได้ดูแลพระพี่ชายด้วย ในช่วงแรกที่มาอยู่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรผิดปกติ ปฏิบัติเหมือนบวชชีพราหมณ์ทั่วไป ขณะนั้นพระพี่ชายก็ไม่มีการลวนลาม ไม่มีพฤติกรรมที่ส่อไปทางเชิงชู้สาวเลย
กระทั่งช่วงปี 2559 พระพี่ชายเริ่มเรียกเข้าไปหาส่วนตัวในเวลากลางคืน อ้างว่าจะพาฝึกจิต สอนสมาธิ ให้ถอดเสื้อผ้า ยืน นั่งสมาธิต่อหน้าพระพี่ชาย 3 อาทิตย์
และวันสุดท้ายพระพี่ชายให้ไปนอนหงายบนที่นอน ปิดไฟ แล้วเอามะเขือยาวแช่เย็นมาให้จับ โดยบอกว่าเป็นการฝึกจิตดูว่าเป็นอะไร จนคืนนั้นก็มีเพศสัมพันธ์กันเป็นครั้งแรก ตอนนั้นตนตกใจและกังวลมาก ไม่รู้จะปรึกษาใคร ไม่กล้าออกมาพูด เพราะพระพี่ชายเป็นคนพูดเก่ง มีลูกศิษย์เยอะ กลัวทำให้พระพี่ชายเสื่อมเสียชื่อเสียง และพระพี่ชายก็ยืนยันว่าคือการฝึกจิต อย่าไปคิดเยอะ อะไรที่มันแล้วก็แล้วไป
ในช่วง 1 ปีแรก ตนกังวลและกลัวตลอดเวลาที่พระพี่ชายเรียกไปที่ห้องตอนกลางคืน จนช่วงปีที่ 2 ปีที่ 3 รู้สึกชินชากับพฤติกรรมนี้ ซึ่งเมื่อตนบอกกับพระพี่ชายว่ารับไม่ไหวกับพฤติกรรมนี้ และจะออกไปจากสำนักปฏิบัติธรรม พระพี่ชายจะบอกว่าจะเป็นคนไปเอง โดยการไปธุดงค์ และเมื่อกลับมาจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก แต่พอกลับมาก็ยังมีพฤติกรรมเดิมอีก โดยอ้างคำสาบานของตนที่ว่า จะไม่ออกจากสำนักสงฆ์ตลอดชีวิต หากออกไปแล้วจะต้องเจอเคราะห์ใหญ่ ตนกลัวและเชื่อตามคำสาบาน จึงไม่กล้าออกมา
นอกจากนี้ น.ส.ชุติกา ยังเผยว่า มีลูกศิษย์ผู้หญิงอีกหลายคนที่มีสัมพันธ์กับพระพี่ชายด้วย โดยมีทั้งเอามาอยู่ในกุฏิหรือออกไปข้างนอกด้วยกัน โดยอ้างว่าจะไปสอนสมาธิ ซึ่งช่วงปีที่ 3 ที่เธอถูกพระพี่ชายเสพเมถุนกับเธอ ก็มีลูกศิษย์สาวใหญ่คนหนึ่งที่พระพี่ชายมีสัมพันธ์ลึกซึ้งและให้มาอยู่ที่สำนักสงฆ์ด้วยกัน ตนจึงตั้งคำถามว่ามันคืออะไรกันแน่ ระหว่างตนกับผู้หญิงคนนี้ ซึ่งพระพี่ชายก็บอกว่าไม่มีอะไรเป็นแค่ลูกศิษย์ ตนจึงบอกว่าจะออกจากวัดและจะเอาเรื่องนี้ไปบอกทุกคน พระพี่ชายก็ขู่ว่าบอกไปก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะไม่มีหลักฐาน ถ้าบอกไปตนก็เป็นเหมือนมารศาสนาเพราะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงตัดสินใจแอบถ่ายคลิป เพื่อเป็นหลักฐาน