นายกเทศมนตรี ชลบุรี ชี้ บางแสนสีเขียวเป็นปรากฏการณ์ “แพลงก์ตอนบลูม”

นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข จ.ชลบุรี โพสต์แจง ปม ทะเลบางแสนสีเขียวอื๋อ เป็นปรากฏการณ์ “แพลงก์ตอนบลูม” คาด อีก 1-2 วัน จะคืนสู่สภาวะปกติ

นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข จังหวัดชลบุรี โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “ณรงค์ชัย (ตุ้ย) คุณปลื้ม” ถึงน้ำทะเลชายหาดบางแสนมีสีเขียวเข้ม และมีกลิ่นค่อนข้างแรง ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 ส.ค. 62 ที่ผ่านมา ว่า “ปรากฏการณ์ดังกล่าว เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เรียกว่า “ปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี หรือ แพลงก์ตอนบลูม (red tide) เกิดจากสาหร่ายเซลล์เดียวหรือแพลงก์ตอนพืช เพิ่มจำนวนมากขึ้นจนทำให้สีของน้ำทะเลเปลี่ยนไปจากสีปกติ

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ครั้งนี้ เปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม เนื่องจากสีของสารสี (คลอโรฟิลล์เหมือนในพืช) ที่อยู่ในเซลล์นั่นเอง และอาจพบสีอื่นๆ ได้ เช่น สีแดง สีน้ำตาล และสีเหลืองเป็นต้น

ในอดีต ชาวประมงที่พบเห็นจะเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “ขี้ปลาวาฬ” ปรากฏการณ์ครั้งนี้เกิดจากแพลงก์ตอนพืช สกุล Noctiluca มีลักษณะทรงกลม ภายในเซลล์มีสีเขียว ขนาดประมาณ 0.5 – 0.7 มิลลิเมตร สามารถมองเห็นเป็นเม็ดกลมๆ สีเขียวด้วยตาเปล่า ในบริเวณผิวหน้าน้ำ

ภาพจากอีจัน

แพลงก์ตอนพืชสกุลนี้ ไม่เป็นอันตราย เนื่องจากไม่สร้างสารพิษ แต่การที่น้ำทะเลมีกลิ่นค่อนข้างแรง เนื่องจากภายในเซลล์มีสารแอมโมเนียค่อนข้างมาก เมื่อเซลล์แตกจากคลื่นหรือเซลล์ตายลงจะมีการปลดปล่อยแอมโมเนียออกสู่บรรยากาศและส่งกลิ่นเหม็นนั่นเอง

การที่พบสัตว์น้ำขนาดเล็กตายและพบซากบริเวณชายหาดในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี เนื่องจากพอแพลงก์ตอนพืชตายลง ซากจะถูกแบคทีเรียใช้ออกซิเจนในน้ำในการย่อยสลายซาก จึงทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลงส่งผลให้สัตว์น้ำขนาดเล็กขาดออกซิเจนและตายลง

ภาพจากอีจัน

ปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี ปกติจะเกิดขึ้นทุกปีในระยะ 3-5 ปี ที่ผ่านมาสามารถพบเห็นได้ประจำ ปีละประมาณ 2-3 ครั้ง ระยะเวลาในการเกิดจากพบเห็นต่อเนื่อง 3-5 วัน โดยมักพบในช่วงหลังฝนตก เนื่องจากมีการชะล้างสารอาหารลงสู่น้ำทะเลชายฝั่ง และมีอุณหภูมิ ความเค็ม และความเข้มแสงที่เหมาะสมจึงทำให้แพลงก์ตอนพืชเพิ่มจำนวน (เติบโตอย่างรวดเร็ว) และเมื่อสารอาหารลดลงก็จะพบเซลล์ลดลงและปรากฏการณ์นี้จะหายไป

นอกจากนี้ การขึ้นลงของน้ำทะเลและกระแสลมในช่วงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงพัดลมทิศทางเข้าสู่ฝั่ง เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้มวลของแพลงก์ตอนพืชถูกพัดเข้าสู่ฝั่งในบริเวณชายฝั่งบางแสน

ภาพจากอีจัน

ในปี 2562 ที่ผ่านมา บริเวณชายหาดบางแสน พบการเกิดน้ำทะเลเปลี่ยนสีมาแล้วประมาณ 4 ครั้ง คือ เดือนกุมภาพันธ์, มีนาคม, กรกฎาคม และครั้งนี้ สิงหาคม


จากการติดตามและตรวจสอบของหน่วยงานต่างๆ สามารถคาดการณ์ได้ว่าปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสีครั้งนี้ ที่เกิดขึ้นอยู่ในช่วงปลายของการบลูมแล้ว จำนวนเซลล์เริ่มลดลง คาดว่าอีก 1-2 วัน สถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ”