“กติกาผี” เปิดโปงรร.ดัง รับเด็กนร.นอกพื้นที่

“กติกาผี” เปิดโปงรร.ดัง รับเด็กนร.นอกพื้นที่

วันนี้เปิดเทอมเป็นวันที่เด็กนักเรียนต่างตื่นเต้นได้ไปรร. แต่มีเด็กจำนวนหนึ่งยังต้องดิ้นรนหาที่เรียน ใหม่ทั้งๆที่ความจริงแล้ว ในการสอบคัดเลือก เขาสอบติดเป็นนร.ในพื้นที่ แต่กลับกลายต้องเป็นเด็กสอบตก เพราะ…แพ้กติกาผี??? มันคือ?
เรื่องมีอยู่ว่า หลายวันก่อนอีจันได้รับเรื่องร้องเรียนจากชายคนหนึ่ง ที่อยากเล่าเรื่อง “แปลกใน วงการการศึกษา” ให้เราฟัง พร้อมแสดงหลักฐานบางอย่าง

พี่เขามาถึงสตูฯน้อยๆ ของอีจันและเริ่มเล่าว่า ช่วงที่ลูกเรียนเรียนกวดวิชา จะสอบเข้า ม. 1 เพื่อนของเขาได้รับโทรศัพท์จากโรงเรียนกวดวิชาแห่งนั้น แจ้งว่า ถ้าอยากให้ลูกสอบติด รร. ชื่อดัง( ขอไม่เอ่ยนาม ) ก็ให้เข้าไปติดต่อที่ทางรร.กวดวิชา รับรองว่า สอบได้แน่ ผู้ปกครองก็คิดว่า เป็นเรื่องหลอกลวงจึงไม่ได้เข้าไปตามคำเสนอ และให้ลูกสอบไปตามปกติ
ผลการสอบออกมา คือ ลูกสอบไม่ติด แต่มีเรื่องน่าประหลาด คือ เพื่อนของลูกสอบติด ทั้งๆที่คะแนนน้อยกว่า และเมื่อมาทราบภายหลัง คือ เพื่อนของลูกเข้าสอบโดยใช้สิทธิ์ เป็นนักเรียนในพื้นที่ทั้งๆที่บ้านอยู่ไกลมาก แต่กลับใช้สิทธิ์เข้าสอบแบบมีคุณสมบัติ ไม่สมบูรณ์ ก็ยิ่งงไปใหญ่ ว่า กรณีแบบไม่สมบูรณ์นี้ คือ อะไร?

ด้วยความสงสัย พี่ทั้งสองคนจึงไปสืบข้อมูลและก็ทราบว่า จะมีผู้ปกครองกลุ่มหนึ่งที่รู้ว่าทางรร. มีกติกาพิเศษที่ไม่แจ้งในเอกสารรับสมัครสอบทั่วไป คือ ปกติแล้ว เวลาที่ทางรร.ประกาศรับสมัครสอบคัดเลือกนร. ก็จะมีเอกสารกำหนดคุณสมบัติ ต่างๆ นานาแปะประกาศไว้ ที่โรงเรียนแสนโด่งดังแห่งนี้ก็เช่นกัน มีการกำหนดคุณสมบัติผู้สอบ ซึ่งในการสอบนี้จะมีการคัดเลือก 2 กลุ่ม

กลุ่มแรก คือ กลุ่มเด็กทั่วไป ใครมาสอบก็ได้ วัดกันที่ความเก่ง ลำดับที่ 1-200 ก็ได้เก้าอี้เข้าเรียนไปสวยๆ กลุ่มนี้ไม่มีปัญหา

ส่วนกลุ่มที่ 2 รับอีก 200 คน แต่กลุ่มนี้จะรับเฉพาะ นร.ในพื้นที่เท่านั้น

นร.ในพื้นที่ คือ ใคร??? เอกสารรับสมัครสอบของรร.ระบุชัดว่า ต้อง เป็นนักเรียนที่ 1.มีภูมิเลาในเขตนี้ๆเท่านั้น 2.ต้องอยู่ที่บ้านในเขตนั้นจริง และ 3. ต้องอยู่อย่างน้อยนานถึง 2 ปี
ถ้าไม่มีคุณบัติตามนี้ เช่น ไม่มีทะเบียนบ้าน แต่อยู่ในเขตจริง เรียนประถมอยู่ในเขตจริง ก็สามารถให้คณะกรรมการมีดุลพินิจได้ ช่องที่เปิดไว้นี้กลายเป็นช่องโหว่งที่ทำให้ เกิดกติกาผีขึ้น!!! เด็กจำนวนหนึ่ง ข้ามห้วยมาจากที่อื่น มาจากเขตอื่น มาจากต่างจังหวัด แต่กลับมาได้รับดุลพินิจ กลายเป็นเด็กในพื้นที่เฉยเลย

ผลที่ตามมา คือ การคัดเลือกเด็กนักเรียน ลำดับที่ 200 จนถึง 400 ซึ่งเป็นสิทธิ์ของเด็กในพื้นที่จึง ไม่ใช่อีกต่อไป ข้อมูลที่พี่ทั้งสองสืบมา คือ ที่นี่มีเด็กที่สมัครตามคุณสมบัติ 3 ข้อ เป็นเด็กในพื้นที่จำนวน 197 คน ซึ่งเก้าอี้มี 200 ที่ ดังนั้นเด็กพวกนี้ต้องได้ที่นั่งหมด คือ ต้องสอบติดทั้งหมด แต่ปรากฏว่า มีชื่อ นร.อีกกลุ่มซึ่งมีคุณสมบัติไม่สมบูรณ์มาเบียด

คุณสมบัติไม่สมบูรณ์ คือ เพิ่งย้ายทะเบียนบ้านเข้าบ้านในเขตที่กำหนด บางคนเพิ่งย้าย 1 วัน บางคน 3 วัน บางคน 2 เดือน บางคนสอบได้ปุ๊บก็ย้ายออกไปเลย บางคนก็ย้ายเข้า มาอยู่บ้าน เดียวกันหลายคน ซึ่งเด็กกลุ่มนี้ กลายเป็นเด็กพื้นที่ที่ผ่านดุลพินิจมีสิทธิเท่าเทียบกับเด็กในพื้นที่
ดังนั้นเมื่อเอาเด็กกลุ่มนี้ซึ่งมีจำนวนประมาณ 120 คน มาคัดร่วมด้วย เด็กพื้นที่ ที่มีคะแนนน้อยกว่าเด็กกลุ่มหลัง ก็จะต้องกลายเป็นเด็กสอบไม่ติดไป ทั้งๆที่เขามีสิทธิโดยชอบธรรม

คำถาม คือ
1. เด็กกลุ่มนี้มาได้อย่างไร เมื่อคุณสมบัติไม่ครบขนาดนั้น เขาไปรับสมัครกันทางไหน ทำไมคนทั่วไปไม่รับทราบ
2. ทำไมรร.จึงให้สิทธิ์เด็กนอกพื้นที่ในกรณี ย้ายทะเบียนบ้านมาแบบสายฟ้าแลบนี้
3. รร.กวดวิชา รู้เห็นเป็นใจและมีผลประโยชน์หรือไม่

เรื่องที่ตลกไม่ออกยิ่งกว่านี้ คือ การพยายามหาคำตอบของพี่ทั้ง 2 คน เมื่อเข้าไปถามข้อสงสัย คาอกคาใจ ผอ.รร.ดังระดับประเทศก็ให้คำตอบว่า เป็นดุลพินิจ เรื่องแบบนี้เป็นดุลพินิจ ของคณะกรรมการ รร.และไม่แสดงความรับรู้ถึงความไม่เป็นธรรมตามที่ผู้ปกครองถาม
เมื่อไม่ได้คำตอบทั้งสองคนก็จะเข้าไปพบกับ สพฐ. แต่ยังไม่ทันเข้าไปข่าวก็รั่ว ผอ.คนเดิมถึงกับชี้หน้าว่า “จะไปร้องผม เหรอ ?” จนพี่เขาได้ไปคุยกับทางกระทรวงศึกษา เรื่องกลับวนกลับ ให้กลับมาคุยกับผอ. รร.ก่อน เพราะแกจะเกษียณแล้ว ถ้าเป็นเรื่อง แกจะออกจากราชการไม่ดี

เวรกรรม ของ เวรกรรม!! ความไม่เป็นธรรมของนักเรียนไทย มีใครสนใจบ้าง (วะ )? การเป็นเด็กสอบไม่ติดนี่ก็แย่พอแล้ว แต่เหตุที่ไม่ติดเกิดเพราะถูกโกงนี้มันแย่ยิ่งกว่า#สงสารเด็กไทย พี่เขาเซ็งจัด !!! เลยมาร้องอีจัน แต่กว่าจะเจอกันก็นานอยู่ ปัญหาก็นวดกันไปนวดกันมา ผู้ปกครองที่เริ่มรู้ว่าลูกมีสิทธิ์โดยชอบธรรมแต่สอบตกก็เริ่มไม่ยอม เดินเข้าเดินออกรร. ร้องนักข่าวจนวันนี้ทราบมาว่า ทางรร.ยอมถอย ประกาศจะรับเด็กพื้นที่ (ซึ่งวืดไปแล้ว ) เข้าเรียนทั้งหมด ตามสิทธิ์เดิมเป็นการบรรเทาปัญหาร้องเรียน ก็ยังไม่รู้จะจบแบบนี้จริงหรือไม่ แต่เด็กได้สิทธิ์เดิมคืนถือเป็นเรื่องดี แต่การกระทำอันไม่เป็นธรรมนี้ ควรถูกสอบสวนหาต้น หาปลายหน่อยมั้ย? ผลประโยชน์มีมั้ย ใครได้ ใครอม ใครทอน แจงมามั้ย ? จะได้เข็ดหลาบ เลิกกันเสียที อยากบอกคุณครูที่เคารพ จะสอนเด็กให้เป็นคนดี ครูทำดีหรือยัง? จะสอนเด็กให้มีคุณธรรม ครูมีคุณธรรม มีความเป็นธรรม พอเพียงใด จะสอนให้เขาซื่อสัตย์ ครูซื่อสัตย์เพียงไหน จะสอนใครอย่างไร ครูควรเป็นอย่างนั้น มิใช่หรือคะครู? ด้วยความเคารพ จากอีจัน ปล.ยังเฝ้าดูการจัดการปัญหาที่ถูกต้องอยู่นะคะ ถ้ามีอะไรแปลกๆอีก จะมาเล่าให้ฟังค่ะ