รวบหนุ่มลอบขนยาแก้ไอ 2,000 ขวด ขณะเตรียมส่งลงใต้

กองปราบ รวบหนุ่มลอบขนยาแก้ไอ จำนวน 2,000 ขวด ขณะเตรียมส่งภาคใต้ เป็นส่วนผสมในการทำน้ำ 4 คูณ 100

วานนี้ (27 ส.ค. 2562) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช อำนวยการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมประกอบด้วย ร.ต.อ.ธีระยุทธ ไทยราช รอง สว.กก.6 บก.ป., ร.ต.อ.นฤชาติ เวชโช หน.ชปส.บก.ตชด.ภาค.4 กับพวกได้ร่วมจับกุมตัว นายสุทวิทย์ อุบลจินดา อายุ 41 ปี ชาว ต.คลองรี อ.สทิงพระ จ.สงขลา

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ในข้อกล่าวหาว่า มียาแผนปัจจุบัน ยาอันตราย(ยาแก้ไอ) ไว้ในครอบครอง เพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510
พร้อมตรวจยึดของกลาง จำนวน 3 รายการ คือ ยาแก้ไอซึ่งเป็นส่วนผสมในการทำน้ำ 4 คูณ 100 จำนวนทั้งสิ้น 2,000 ขวด ประกอบด้วย และรถบรรทุก 10 ล้อ จำนวน 1 คัน

รายละเอียดของกลางประกอบด้วย
1.ยาบรรเทาอาการไอ ชนิดน้ำเชื่อม ยี่ห้อ A-chlordyl syrup ขนาด 60 ml./ขวด จำนวน 10 ลัง ลังละ 100 ขวด รวม จำนวน 1,000 ขวด (บรรจุในกล่องกระดาษ ซุกซ่อนปะปนมากับสิ้นค้าอื่น ซึ่งอยู่ภายในรถบรรทุก)
2.ยาบรรเทาอาการแพ้ ชนิดน้ำเชื่อม ยี่ห้อ CHLORIMINE (คลอริมิน) ขนาด 60 ml./ขวดจำนวน 5 ลัง ลังละ 200 ขวด รวมจำนวน 1,000 ขวด (บรรจุในกล่องกระดาษ ซุกซ่อนปะปนมากับสินค้าอื่น ซึ่งอยู่ภายในรถบรรทุก)
3.รถบรรทุก ยี่ห้อ ISUZU จำนวน 1 คัน
การจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากวันนี้ (27 ส.ค.62) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งว่า จะมีการลักลอบขนส่งสินค้ายาแผนปัจจุบัน (ยาแก้ไอ) มากับรถบรรทุกขนส่งสินค้า

โดยบอกตำหนิรูปพรรณของรถบรรทุกโดยละเอียด จากกรุงเทพฯ นำส่งมาจำหน่ายทางพื้นที่ทางภาคใต้ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วทำการตรวจสอบรถบรรทุกที่วิ่งบริเวณริมถนนสายเอเชีย หาดใหญ่-พัทลุง หมู่ที่ 8 ต.ท่ามิหรำ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง โดยแบ่งกำลังจอดรถสายตรวจสุ่มดูอยู่ตามแนวถนนใกล้ที่เกิดเหตุ

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ต่อมาเวลาประมาณ 10.00 น.ได้มีรถบรรทุกต้องสงสัยตรงตามที่สายลับได้แจ้งไว้ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ติดตามสกัดและขอทำการตรวจสอบ โดยเมื่อผู้ขับขี่รถบรรทุกจอด จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูจนเป็นที่พอใจ จึงได้ขอทราบชื่อสกุลผู้ขับขี่รถบรรทุกคันดังกล่าวว่า

เบื้องต้น นายสุทวิทย์ รับว่าตนเป็นคนขับขี่รถบรรทุกคันดังกล่าว โดยตนเองเป็นลูกจ้างขับรถของ หจก.ภานุศักดิ์ ขนส่งให้ขับนำสินค้าจากกรุงเทพฯ มาส่งที่จังหวัดในเขตภาคใต้ โดยตนเองไม่ได้มีเอกสารใดๆเกี่ยวข้องกับของกลางเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้ทราบ และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวผู้ถูกจับมาจัดทำบันทึกจับกุมแล้วนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป