มข.ส่งเรื่องวุฒิปลอม ให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณา

มข.ส่งเรื่องหนุ่มพยาบาลปลอมวุฒิ ให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณา

มข.ส่งเรื่องหนุ่มพยาบาลปลอมวุฒิ ให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณา รับเพราะเทคโนโลยีทำให้ปลอมเอกสารง่าย แต่ระบบตรวจสอบเอกสารของ มข. ก็เร็วขึ้นเช่นกัน ลั่น 7 วันรู้ผล!


จากกรณี นายโกวิท อินทสอน บุรุษพยาบาล โรงพยาบาลปากชม จ.เลย ปลอมวุฒิการศึกษาและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ เข้าทำงานที่โรงพยาบาล ในแผนกฉุกเฉิน นาน 11 ปี จนได้รับการบรรจุ กระทั่งมีการตรวจสอบมายังมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นต้นทางของการออกวุฒิการศึกษาและใบประกอบวิชาชีพฯ ดังกล่าว ซึ่งทาง มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก็ยืนยันกลับไปว่าเป็นของปลอม

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ล่าสุดวันนี้ 30 ส.ค. 2562 รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล ที่ปรึกษารักษาการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมคณะที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการออกใบรับรองการศึกษาของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการตรวจสอบวุฒิการศึกษา และใบประกอบวิชาชีพอื่น ๆ ที่ทาง มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ออกให้กับนักศึกษาที่จบไป รวมทั้งสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในครั้งนี้

โดย รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล ที่ปรึกษารักษาการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นกล่าวว่า เรื่องการปลอมแปลงเอกสารนี้ ไม่สามารถห้ามได้ 100% ถึงแม้ว่าเราจะมีระบบป้องกันดีอย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือว่า ถ้าหน่วยงานใดสงสัยว่าเป็นใบปริญญาจริงหรือปลอม ก็ให้ส่งมาที่มหาวิทยาลัยฯ เพื่อทำการตรวจสอบ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยฯ จะสามารถให้คำตอบได้เร็วมาก เพราะเรามีระบบฐานข้อมูลอยู่แล้ว สามารถตอบได้ภายในไม่เกิน 1 สัปดาห์

และตนขอเรียนเพิ่มเติมว่าในกลุ่มที่เป็นวิชาชีพนี้ ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เขาจะมีระบบการตรวจบุคลากรในหน่วยงานของเขา เรียกว่าระบบ jci จะบังคับเลยว่าบุคลากรทุกฝ่ายจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่า คนนี้เป็นของจริงแต่ระบบจะบังคับให้มีการตรวจสอบ เพราะฉะนั้นในทุกๆ ปี ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นก็จะยืนยันหลักฐานให้กับนายจ้างอยู่แล้ว ถ้าหน่วยงานต่างๆมีข้อสงสัยก็ให้มาใช้บริการตรวจสอบได้เลย ทางมหาวิทยาลัยยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ด้าน รศ.ดร.ไมตรี อินทร์ประสิทธิ์ รองอธิการบดีฝ่ายการศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า กรณีของ โรงพยาบาลปากชมที่เรื่องแดงขึ้น เพราะสาเหตุต้องมีการต่อใบประกอบวิชาชีพทุก 5 ปี ซึ่งตนเข้าใจว่า 5 ปีแรก คงจะไม่ได้มีการตรวจสอบ หรืออาจเป็นเพราะมีการเชื่อใจกัน

แต่การต่อใบประกอบวิชาชีพ ครั้งที่ 2 ทางฝ่ายตรวจสอบ เริ่มผิดปกติ พอไปดูก็เห็นว่ามันแปลกๆ ก็ส่งให้ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นตรวจสอบจนกระทั่งพบว่าเป็นของปลอม

ส่วนเรื่องการเอาผิดนั้นขณะนี้เราได้ส่งให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณา ว่าเราเสียหายประมาณไหน ก็คงในแง่ชื่อเสียง แต่ถ้าคิดอีกแง่หนึ่งอาจเป็นเพราะเราเป็นมหาวิทยาลัยใหญ่ มีคุณภาพ ก็เลยเกิดเหตุการณ์นี้
คงต้องติดตามกันต่อไปว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร

หากมีความคืบหน้าจันจะนำมารายงานให้ทราบนะคะ