(2 ก.ย. 62) เวลา 13.30 น. ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ นายแผน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล หรือ ลุงจรูญ ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา
ภาพจากอีจัน
เมื่อถึงเวลานัด นายแผน ได้เดินทางมาพร้อมกับ นายวชิระ ทานท่า ทนายความ นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น และ นางพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช
โดย นายวชิระ กล่าวว่า การเดินทางมาในวันนี้ เนื่องจาก นายแผน ได้ยื่นฟ้องลุงจรูญในความผิดฐาน แจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา เนื่องจากลุงจรูญได้ไปแจ้งความ กับตำรวจกองปราบว่า นายแผน ให้การเท็จ โดยอ้างว่า เห็นลุงจรูญก้มเก็บลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ตลาดเรดซิตี้ ซึ่งเรื่องที่ลุงจรูญแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบนั้นไม่เป็นความจริง นายแผนจึงต้องมา ยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อปกป้องสิทธิ์ของตนเอง
ภาพจากอีจัน
ขณะที่ นายแผน กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนมาให้การเป็นพยาน เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกให้มาเป็นพยาน โดยไม่ได้เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว ทั้งกับทั้ง 2 ฝ่าย รวมถึงกลุ่มแม่ค้าลอตเตอรี่แต่อย่างใด และการให้การของตน ก็เป็นการให้การไปตามความเป็นจริงที่พบเห็น
ขอยืนยันว่า ตนไม่เคยพูดว่า “เห็นลุงจรูญก้มเก็บลอตเตอรี่ที่ตลาดเรดซิตี้” แต่เมื่อ ลุงจรูญ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและแจ้งความว่า ตนให้การเท็จ เป็นพยานเท็จ ทำให้ตนได้รับความเสียหาย ถูกต่อว่า และเกลียดชังจากคนเป็นจำนวนมาก ตนจึงต้องฟ้องร้อง เพื่อปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง
ภาพจากอีจัน
ในการไต่สวนมูลฟ้องนั้น ฝ่ายของ นายแผน ได้เตรียมพยานขึ้นให้การจำนวนทั้งสิ้น 10 ปาก ในจำนวนนี้ รวมถึง ครูปรีชา และ 3 เจ๊ แม่ค้าลอตเตอรี่ที่ตลาดด้วย
ส่วนจะมีการไต่สวนมูลฟ้อง จำนวน 1 ปาก คือ ปากของ นายแผน เท่านั้น
ในเวลาต่อมา ร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล พร้อมด้วยภรรยา และทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด พร้อมทีม ได้เดินทางมาถึงศาลจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมเปิดเผยว่า เหตุที่ลุงจรูญ แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบว่า นายแผน ให้การเท็จนั้น เป็นเพราะที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนการสืบพยานในคดีหวย 30 ล้าน นายแผน เคยให้สัมภาษณ์ และเคยให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 กลับไปกลับมาหลายครั้ง ซึ่งทางตนจะได้นำพยานหลักฐานเหล่านี้ นำเสนอต่อศาลให้พิจารณา ว่าเข้าข่ายการให้การเท็จหรือไม่
ภาพจากอีจัน
ส่วนที่ นายแผน ยื่นฟ้องลุงจรูญ ในข้อหาแจ้งความเท็จให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญานั้น ตนไม่ได้หนักใจอะไร และเชื่อว่าจะสามารถพิสูจน์ให้ศาลเห็น และทำให้คดีนี้ตกไปได้ตั้งแต่ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง