DSI ฟัน การหายตัว “บิลลี่” เข้าข่าย ฆาตกรรม

DSI ฟัน การหายตัว “บิลลี่” เข้าข่าย ฆาตกรรม หลังพบกะโหลกมนุษย์ พันธุกรรมตรงกับ แม่บิลลี่

วันนี้ (3 ก.ย.62) เมื่อเวลา 13.00 น. ดีเอสไอ แถลงความคืบหน้า คดีการหายตัวไปของนายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำประชาชนชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย

ภาพจากอีจัน
จากเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2561 ในการกระทำความผิดทางอาญาอื่น กรณีหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำประชาชนชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย เป็นคดีพิเศษที่ต้องสอบสวนและสืบสวนตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษพ.ศ. 2547 พฤติการณ์กล่าวคือ นายพอละจีได้ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจับกุม ในระหว่างนำน้ำผึ้งออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557
ภาพจากอีจัน

โดยเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมตัวอ้างว่าได้ปล่อยตัวนายพอละจี พร้อมรถจักรยานยนต์และนำน้ำผึ้งของกลางไปโดยไม่ได้ดำเนินคดี แต่นางสาวพิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาของนายพอละจี และญาติ เชื่อว่า นายพอละจี หายสาบสูญไปโดยถูกบังคับ

ภายหลัง กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสอบสวนสืบสวน ได้มีการแต่งตั้งพนักงานอัยการจากสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษและมีการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน สืบสวนสอบสวนต่อเนื่องมาโดยตลอด

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
กระทั่งเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2562 และเมื่อวันที่ 22- 24 พฤษภาคม 2562 พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ใช้เครื่องยานยนต์สำรวจใต้น้ำ และนักประดาน้ำจากกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตรวจหาพยานหลักฐานที่พื้นที่ใต้น้ำบริเวณสะพานแขวนเขื่อนแก่งกระจาน สามารถตรวจพบชิ้นส่วน กระดูกจำนวน 2 ชิ้น ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตรจำนวน 1 ถัง เหล็กเส้นจำนวน 2 เส้น ฐานไม้จำนวน 4 ชิ้น และเศษฝาถังน้ำมัน

จากนั้นได้ส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำการตรวจพิสูจน์พบว่า วัตถุเป็นชิ้นส่วนกระดูกกะโหลกศีรษะข้างซ้ายของมนุษย์มีรอยไหม้ สีน้ำตาลร่วมกับรอยร้าว และการหดตัวของกระดูกจากการถูกความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 200 – 300 องศาเซลเซียส ตรวจพบสารพันธุกรรมตรงกับนางโพเราะจี รักจงเจริญ แม่ของ นาย พอละจี รักจงเจริญ

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 28 – 30 สิงหาคม 2562 พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ร่วมกับนักประดาน้ำ ตรวจหาพยานหลักฐานที่พื้นที่ใต้น้ำบริเวณสะพานแขวนเขื่อนแก่งกระจาน ตรวจหาพยานหลักฐานพบชิ้นส่วนกระดูกเพิ่มเติมอีก 20 ชิ้น
ภาพจากอีจัน
ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษเห็นว่า พฤติการณ์ของกลุ่มคนร้ายที่กระทำผิดครั้งนี้ เข้าข่ายลักษณะเป็นการฆาตกรรมโดยทรมาน และการบังคับบุคคลให้สูญหาย ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ
ภาพจากอีจัน
หลังจากนี้ทาง กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเร่งรัดสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มองค์กรที่กระทำความผิดโดยเร็ว

รวมคลิป ใครฆ่าบิลลี่?