กรณี นายวิเชียร อายุ 47 ปี และนางจรรยา อายุ 45 ปี สามีภรรยาชาวสกลนคร เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.เกรียงไกร แสวงศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ว่า นายอนุชา อายุ 27 ปี ลูกชายซึ่งทำงานอยู่ในสำนักงานเขตการศึกษา จ.อุดรธานี ถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบอุดรธานีจับไปกักขังไว้ที่ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เพื่อเรียกค่าไถ่ 4 หมื่นบาท ตนไม่มีเงินโอนไปไถ่ตัว ด้วยความเป็นห่วงลูก เกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงมาแจ้งตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ให้ช่วยติดตามช่วยเหลือลูกชาย
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
แต่หลังจากนั้น ลูกชายได้โทรศัพท์มาหาพ่อแม่แล้วบอกว่า ตนเองสบายดีปลอดภัยไม่ได้เป็นอะไรหรือไม่ได้โดนใครจับตัวไป ในตอนนี้อยู่ที่ จ.เลย แต่ก็ยังขอให้พ่อแม่โอนเงินไปให้จำนวน 4 หมื่นบาท ทำให้พ่อแม่โล่งใจ แล้วได้เดินทางมาให้ข้อมูลกับตำรวจเป็นเรื่องไม่จริงว่าลูกชายถูกจับตัวไป ล่าสุด 5 กันยายน 2562 นายวิเชียร เปิดเผยว่า ลูกชายเรียนจบปริญญาตรี เอกภาษาไทย มหาวิทยาราชภัฏ สกลนคร แล้วเคยไปเป็นครูสอนที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.บึงกาฬ ทำงานได้ประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้นลูกชายก็เดินทางไปๆมาๆ สกล-อุดรฯ เพราะลูกชายติดเพื่อน ชอบไปดู และติดตามวงหมอลำ ไปที่ต่างๆ ที่มีการแสดง ซึ่งลูกชายเคยไปบันทึกเสียงในห้องห้องอัดเสียงของวงหมอลำ เพราะมีความฝันอยากเป็นนักร้อง แต่ไม่ผ่านการคัดเลือก ซึ่งในตอนนี้ลูกชายว่างงาน ส่วนเงินจำนวน 4 หมื่นบาท ที่ลูกชายกุเรื่องขึ้นมา เพราะต้องการเงินไปใช้หนี้เพื่อนที่ยืมมา ซึ่งไม่ใช่ยืมเงินกู้นอกระบบมา โดยก่อนหน้านี้ตอนสมัยเรียนลูกชายเคยกุเรื่องขึ้นมา อ้างว่านำเงินไปจ่ายค่าอุปกรณ์การเรียน ครั้งละ 5,000- 10,000 บาท พ่อแม่ก็ให้เงินไป และคิดว่าเมื่อลูกชายเรียนจบก็คงจะไม่มีพฤติกรรมแบบนั้นอีก แต่แล้วก็ยังมากุเรื่องว่าโดนเจ้าหนี้เงินกู้อุ้มไปเรียกค่าไถ่เป็นเงินจำนวน 4 หมื่นบาท ซึ่งพ่อแม่จะหาเงินมาจากไหน เพราะรายได้ของพ่อ แค่ 1 หมื่นกว่าบาท ทำงานส่งหมูให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และอยากฝากถึงลูกชายว่า พ่อแม่และน้องให้อภัยหมดทุกอย่าง ในเรื่องที่กุขึ้นมาหลอก อยากให้ลูกชายกลับมาบ้าน มีเรื่องอะไร หรือหนี้สินอะไร มาพูดคุยกันทางบ้านจะช่วยแก้ไขให้ ไม่ควรทำแบบนี้
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ด้าน พ.ต.อ. สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เรื่องที่ลูกชายโทรมาบอกพ่อแม่ว่าโดนอุ้มจับไปเรียกค่าไถ่นั้นไม่เป็นความจริง เป็นการสร้างเรื่องและหาเหตุผลเพื่อต้องการเงินไปใช้จ่าย ซึ่งลูกชายได้ติดต่อมาหาพ่อแม่แล้ว ยืนยันว่า ตัวเองปลอดภัยดี เชื่อว่าไม่นานคงจะกลับมาบ้าน โดยเรื่องนี้ขอให้แง่คิดในการที่จะทำอะไร ควรไตร่ตรองให้ดี อย่าทำอะไรหรือพูดอะไร ที่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัว หรือบุคคลอื่น
ถ้าเป็นเรื่องถูกจับลักพาตัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องติดตามเพราะเป็นคดีเกี่ยวกับอาชญากรรม ซึ่งตอนนี้ทางครอบครัวได้คลายความกังวลใจไปได้แล้ว ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะพยายามติดตามลูกชาย ให้กลับบ้าน