นี่คือวิธีการ สืบสวนสอบสวน ของ เจ้าหน้าที่ ของรัฐหรือ?
นี่มันคือการคุกคาม ข่มขู่ ใส่ร้าย ใส่ความ หมายเอาชีวิต ของ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ผมทำหน้าที่มีกฏหมาย มีระเบียบ มีวินัย และข้อบังคับให้ดำเนินการอย่างเป็นธรรม โป่งใส่ มีคุณธรรม จรรยาบรรณของผู้ใช้กฏหมาย
นี่คือคำถามจาก นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้ที่กำลังตกเป็นเป้าสังคมเกี่ยวโยงคดี บิลลี่ หายตัว
วันนี้ (6 ก.ย.62) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี
หลังได้ฟังคลิปเสียงลับ ที่มี บุคคล้างตัวเป็นตำรวจ สังกัดตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางไปยังบ้านของ นายบุญแทน บุษราคำ พนักงานงานราชการ ตำแหน่งพิทักษ์ป่า ปฏิบัติหน้าที่ ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากรมหลวงชุมพร 1 ในเจ้าหน้าที่ ที่อยู่กับ นายชัยวัฒน์ ขณะเกิดเหตุการณ์ควบคุมตัว นายบิลลี่ ไว้ ก่อน นายบิลลี่ จะหายตัวไป เมื่อ 5 ปีก่อน
ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้พูดคุยกับ ภรรยาของ นายบุญแทน โดยมีคำพูดลักษณะ ข่มขู่ให้กลัว และพยายามพูดโน้มน้าวให้ นายบุญแทน ยอมเป็นพยาน โดยอ้างว่าจะได้เงินจากการคุ้มครองพยาน และเงินเดือนที่ครบตามจำนวน พร้อมปล่อยข่าวว่า “นายชัยวัฒน์ เคยขู่ฆ่า นายบุญแทน”
โดย นายชัยวัฒน์ ได้ตั้งข้อสงสัยถึง เสียงสนทนา ดังกล่าวว่า “วิธีการแบบนี้ เจ้าหน้าที่ที่ทำคดีนี้ ยังใช้พฤติกรรม ข่มขู่ คุกคาม เพื่อให้ ผู้ที่อยู่ในความสงสัย ยอมรับ โดยวิธีการสอบสวน สืบสวน ลักษณะอย่างนี้ ไม่ทราบว่า ฝ่ายหรือหน่วยงานที่ทำงานเรื่องนี้ รู้เห็นด้วยหรือเปล่า และดาบเท่ง ที่อ้างตัวว่าเป็น ตำรวจสืบภาค 7 ซึ่งไม่ทราบว่ารับงานใครมา หรือ ดีเอสไอ รู้เห็นด้วยหรือไม่
เพราะการกระทำครั้งนี้ หวังผล สองทาง คือ
1. ถ้านายบุญแทน ถูกยิงตาย นั่นหมายถึง นายชัยวัฒน์ เป็นคนทำ กรณีนี้ ก็คงใช้ไม่ต่างกับกรณี บิลลี่หายตัว
2. ถ้านายบุญแทน ถูกนำตัวไปทรมานให้ยอมรับ แล้วต้องถูกบังคับให้เซ็นเอกสาร ว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ทีมงาน สืบสวนต้องการ
วิดีโอ ใครฆ่าบิลลี่?