ช้างพลายกวม ตกมัน ควาญกว่า 10 คน ไล่จับวุ่นนาน 3 วัน

ควาญช้างและชาวบ้านช่วยกันจับช้างพลายกวมตกมัน ระดมควาญช้างกว่า 4 จังหวัด ใช้เวลาไล่จับกว่า 3 วัน ก่อนสิ้นฤทธิ์ด้วยยาสลบ

เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (9 ก.ย. 62) นายวัชรเกียรติ ภัทรภูติ ปลัดอำเภอเขาชัยสน จ.พัทลุง และนายเจริญศักดิ์ ชูสงค์ กำนันตำบลโคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง พร้อมลูกบ้านเกือบ 100 คน นำควาญช้างผู้ชำนาญการจับช้างจากจังหวัดพัทลุง ตรัง สตูล และนครศรีธรรมราช และคณะของนายสัตวแพทย์ทศพล ภิภัทรธรรม จากโรงพยาบาลช้าง จ.กระบี่ นำปืนยิงยาสลบออกไปไล่ล่าตามจับช้างพลายกวม ที่พยายามดึงโซ่และสายทอที่ติดอยู่ที่คอออก ก่อนที่จะเดินหนีเข้าป่าสวนยางพารา ในพื้นที่บ้านโคกม่วง ม. 11 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ก.ย.62 ที่ผ่านมา

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

กลุ่มควาญช้างกว่า 10 คน นำโดยนายเจียร จุลคง ควาญช้างจาก อ.กงหรา และเป็นผู้ชำนาญการเลี้ยงช้างประเภทช้างดุมาโดยตลอด แต่ใช้เวลาตามจับนานถึง 2 วัน ก็ไม่สามารถจับได้ ทำให้ทางหมู่บ้านต้องประกาศห้ามราษฎรใน 4 หมู่บ้าน ออกไปกรีดยางพารา เพราะเกรงว่าจะเป็นอันตราย เนื่องจากช้างพลายกวม เป็นช้างดุร้าย ไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ได้ในระยะ 100 เมตร นอกจากควาญของมันเท่านั้น และเป็นช้างที่ฉลาด

ภาพจากอีจัน

นายเจริญศักดิ์ กำนันตำบลโคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เล่าว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ย.62 ที่ผ่านมา นายนนท์ เหล็มปาน ชาวบ้านในพื้นที่ อ.กงหรา จ.พัทลุง นำช้างมาทำงานตัดโค่นไม้ยางพาราและชักลากไม้ยางออกจากสวน ในระหว่างนั้นควาญช้างได้ใช้เลื่อยโซ่โค่นต้นยาง กิ่งยางขนาดใหญ่ที่ค้างอยู่บนยอดต้นยางตกลงมาถูกศีรษะของนายนนท์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่เพื่อนร่วมงานนำผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาล และได้ผูกช้างไว้ในสวนยาง แต่พอกลับมาก็พบว่า ช้างได้ดึงโซ่ขาดและใช้งวงถอดสายทอที่ใช้ลากไม้ทิ้งไว้ในสวน ก่อนที่จะเดินหนีเข้าป่า เจ้าของก็ได้ประสานงานไปยังควาญช้างที่มีประสบการณ์มาช่วยกันจับ แต่ทุกคนไม่สามารถเข้าใกล้ช้างตัวดังกล่าวได้เลย จึงต้องขอความร่วมมือไปยังโรงพยาบาลช้าง จ.กระบี่ ส่งเจ้าหน้าที่มาใช้ปืนยิงลูกดอกยาสลบ ถึง 2 ดอก ช้างก็ยังไม่หมดฤทธิ์ วิ่งหนีเข้าไปในหมู่บ้าน ควาญช้างพยายามปิดล้อม โดยใช้หอกค้ำและกระโดดขึ้นขี่คอ แต่กลับถูกช้างสะบัดจนตกลงมา แต่โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด จนในที่สุดภารกิจนี้ก็สำเร็จ ด้วยวิธีการให้ควาญช้างนับสิบชีวิต ใช้หอกค้ำบังคับช้าง ให้สงบก่อนที่จะใช้โซ่ผูกขาทั้ง 4 ขา ไว้กับต้นยางพารา ภารกิจครั้งนี้ใช้เวลานานร่วม 3 วัน

ภาพจากอีจัน

ด้าน นายเจียร จุลคง ควาญช้างผู้ชำนาญการจับช้าง กล่าวว่า ช้างที่ชื่อไอ้กวม เป็นช้างที่รับรู้กันว่าดุร้ายและจำควาญนอกจากนายนนท์ ผู้เป็นเจ้าของแล้ว ควาญคนอื่นก็ไม่สามารถที่จะขึ้นนั่งคอไอ้กวมได้ ยิ่งเมื่อเจ้าของได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถที่จะมาจับเองได้ ควาญคนอื่นๆก็เข้าใกล้ช้างไม่ได้ เพราะช้างที่เดินหนีเข้าป่า ไม่ได้ตกมันอาการยังปกติ เมื่อเข้าไปใกล้ประมาณ 100 เมตร ช้างก็จะแสดงอาการที่จะไล่ และสภาพป่าเป็นสวนยางพารา ไม่เหมาะที่จะจับช้าง เพราะไม่มีที่กำบัง

ภาพจากอีจัน

ควาญช้างที่เดินทางมาจากหลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นควาญช้างจากจังหวัดสตูล นครศรีธรรมราช ตรังและควาญช้างในจังหวัดพัทลุง ทุกคนก็พยายามที่จะควบคุมเอาไว้ให้ได้ ถึงขนาดนำช้างที่ชื่อ พลายเสรีจากจังหวัดสตูลมาเคียง พลายกวมก็ยังรู้ตัว ไม่ยอมเข้าใกล้ จึงจำเป็นต้องใช้ยิงยาสลบ เพราะถ้ายังจับไม่ได้ทำให้ชาวสวนยางเดือดร้อนไม่กล้าที่จะออกกรีดยาง

สำหรับช้างพลายกวม เป็นช้างสีดอ อายุ ประมาณ 30 ปี นายนนท์ เหล็มปาน รับซื้อมาจากจังหวัดแพร่ เมื่อประมาณ 20 ปี ที่ผ่านมา ความดุร้ายของพลายกวม ก็เคยทำร้ายควาญมาบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต จึงเป็นที่รับรู้กันในกลุ่มผู้เลี้ยงช้างและเคยทำงานชักลากไม้ยางพาราร่วมกันมาตลอด เป็นช้างที่ทำงานเก่งและฉลาด ขณะที่เดินหนีเข้าป่า น้ำตาของพลายกวมก็จะไหลอยู่ตลอด เป็นน้ำตาสีใสๆ ควาญช้างก็จะรู้ได้ว่า อาการช้างเป็นปกติ แต่อาจจะเสียใจที่ควาญช้างบาดเจ็บ

ทางด้านนายสัตวแพทย์ทศพล กล่าวว่า ปัญหาและอุปสรรคในการยิงลูกดอกจับช้างที่ต้องใช้เวลานานและยิงถึง 2 ครั้ง ก็เกิดจากมีผู้คนอยู่ในพื้นที่มาก เมื่อยิงแล้วชาวบ้านส่งเสียงดังช้างก็จะตื่นและวิ่งหนี ตามปกติเมื่อยิงแล้วก็ปล่อยให้ช้างยื่นนิ่งๆ และค่อยแสดงอาการจากฤทธิ์ยา ควาญช้างก็จะเข้าไปผูก แต่เมื่อช้างวิ่งหนี อุปกรณ์โดยเฉพาะโซ่หรือเชือกผูกช้าง ก็ไม่พร้อมเป็นการทำงานลำบากมากขึ้น