เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (10 ก.ย. 62) ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25 ดร.อดิศักดิ์ มุ่งชู ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25 (ผอ.สพม.เขต 25) นายเกียรติศักดิ์ หอมพิกุล รอง ผอ.สพม.เขต 25 เปิดเผยถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริง
กรณี นักเรียนชั้น ม.6/1 โรงเรียนพังทุยพัฒนศึกษา ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น สอบตกวิชาฟิสิกส์ ครูผู้สอนจึงให้ทางเลือกนักเรียนในการที่จะได้คะแนนและผ่านในวิชาดังกล่าว ใน 3 ทางเลือกคือ สอบวิชาดังกล่าวไปเรื่อยๆจนกว่าจะผ่าน และซื้อสิ่งของตามที่ครูต้องการมาส่งให้ครู ตัวเลือกสุดท้ายคือการเผาถ่านในโครงงาน น้ำส้มควันไม้ ซึ่งนักเรียนหญิง 4 คน นักเรียนชาย 1 คน เลือกทำโครงงานน้ำส้มควันไม้ เพื่อแลกกับคะแนนและจะได้สอบผ่านในวิชาดังกล่าว จนไฟไหม้ร่างกายนักเรียนหญิง สาหัส 1 ราย อีก 3 รายบาดเจ็บเล็กน้อย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ยังไม่มีผลสรุปออกมา แต่จากการที่ให้ นายเกียรติศักดิ์ หอมพิกุล รองผอ.สพม.เขต 25 ลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับนักเรียนที่บาดเจ็บและนักเรียนในกลุ่ม ในเบื้องต้น ทราบว่า ทุกคนต้องการทำโครงงานส่งครูตามกำหนด แต่นักเรียนไม่มีประสบการณ์ จึงเกิดอุบัติเหตุขึ้น
เหตุการณ์ครั้งนี้ สพม.เขต 25 รับรายงานช้า ซึ่งเป็นการรายงานทางโทรศัพท์และข้อความผ่านไลน์ ซึ่งคิดว่าทางครูผู้สอนและผู้อำนวยการโรงเรียน จะพูดคุยและดูแลนักเรียนที่บาดเจ็บได้ กระทั่งทราบข่าวผ่านสื่อมวลชน จึงได้ทราบว่าผู้ปกครองของนักเรียนพอใจในการดูแลของผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ไม่พอใจครูผู้สอนวิชาดังกล่าว จึงรีบส่งคณะเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปเยียวยานักเรียนรายที่บาดเจ็บสาหัส โดยมอบเงินให้ 10,000 บาท
นอกจากนี้จะลงพื้นที่ไปพบครูที่สอนวิชาฟิสิกส์ที่โรงเรียน เพื่อสอบถามครูในกรณีที่สั่งให้นักเรียนซื้อสิ่งของมาให้นั้น ซื้ออะไรบ้าง เพราะขณะนี้ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงจากครูผู้สอนวิชาดังกล่าว ว่า สั่งให้นักเรียนซื้อจริงหรือไม่ ถ้าสั่งให้ซื้อจริงก็ต้องชี้แจงว่าสั่งซื้อด้วยสาเหตุใด เพราะตามระเบียบแล้วครูจะสั่งซื้อสิ่งของได้ ต้องเกี่ยวข้องกับวิชาที่จะทำการเรียนการสอนเท่านั้น และต้องทำเรื่องเสนอไปยังผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อจะได้จัดซื้อตามขั้นตอนด้วยเงินอุดหนุนพิเศษ ซึ่งมีอยู่ทุกโรงเรียน แต่ถ้าครูรายนี้สั่งซื้อส่วนตัวก็จะต้องพิจารณาดูที่เจตนากันต่อไปว่าเกี่ยวข้องกับวิชาที่สอนหรือไม่
ในกรณีที่ครูให้นักเรียนทำโครงงานส่ง เพื่อจะได้สอบผ่านในวิชาที่สอนนั้น เป็นการดีที่นักเรียนจะได้มีความรู้ความเข้าใจในวิชาที่เรียนมา แต่ครูต้องคอยกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่ให้นักเรียน เรียนรู้และทำกันเอง เพราะครูผู้สอนต้องคิดคำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียนเป็นหลัก เพราะการเรียนการสอนในโรงเรียนนั้น นักเรียนสำคัญที่สุด ถ้าครูละเลยก็เท่ากับว่าทำหน้าที่บกพร่อง จึงอยากให้ถือเอาเรื่องของครูรายนี้เป็นอุทาหรณ์ ว่า ครูทุกคนที่สั่งงานให้นักเรียนทำงานส่ง ไม่ว่างานนั้นจะสุ่มเสี่ยงหรือไม่ก็ตาม ต้องเอาใจใส่ดูแลอย่างเต็มที่ เพราะบางเหตุการณ์มันอาจจะเกิดขึ้นเกินการควบคุม แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นครูต้องดูแลนักเรียน มีน้ำใจต่อนักเรียนและครอบครัว เพราะโรงเรียนเปรียบเสมือนบ้าน ครูเสมือนพ่อแม่ ต้องช่วยกันดูแลซึ่งกันและกัน
ดร.อดิศักดิ์ ผอ.สพม.เขต 25 กล่าวต่ออีกว่า กรณีที่ครูให้นักเรียนที่สอบตกเลือกซ่อมในวิชาดังกล่าว 3 ทางเลือกนั้น เชื่อว่า เพราะครูต้องการวัดผลระหว่างเรียน เมื่อสอบไม่ผ่านก็ต้องทำงานส่ง เป็นการให้นักเรียนทำงานส่ง เพื่อวัดผลการเรียน ให้นักเรียนสอบเพื่อประเมินผลไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงการวัดผลการเรียนสู่การประมวลเป็นเกรดเฉลี่ยในช่วงสอบปลายภาคเรียน แต่ทั้งนี้กรณีที่ครูให้นักเรียนทำโครงงานนั้น ก็ต้องคอยกำกับดูแลนักเรียนของตัวเองในทุกขั้นตอน เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย
อย่างไรก็ตามในกรณีที่นักเรียนม.6 ทำโครงงานน้ำส้มควันไม้ ซึ่งต้องมีการเผาถ่านก่อนจะได้น้ำส้มควันไม้ จนเกิดเหตุอันตรายขึ้น สพม.เขต 25 ก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ทราบรายละเอียดในทุกขั้นตอน ทั้งเรื่องการสอบตกทั้งชั้นเรียน การซื้อสิ่งของตามคำสั่งครู การทำโครงงาน ทุกๆ เรื่องต้องมีคำตอบ และจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบรวมทั้งคุยกับครูรายดังกล่าวด้วยตัวเองในเร็วๆนี้