วันนี้ 10 ก.ย. 2562 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า
จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ออกแถลงการณ์เนื่องในวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก (World Suicide Prevention Day) ระบุว่านิวซีแลนด์มีแผนจัดตั้งสำนักงานป้องกันการฆ่าตัวตาย เพื่อดำเนินมาตรการลดอัตราการฆ่าตัวตายในประเทศ ซึ่งมีสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ขอบคุณภาพจาก : สำนักข่าวซินหัว
อาร์เดิร์นและเดวิด คลาร์ก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยแพร่แผนกลยุทธ์ “ทุกชีวิตมีความสำคัญ กลยุทธ์ป้องกันการฆ่าตัวตาย (2019-2029) (Every Life Matters – The Suicide Prevention Strategy) (2019-2024) (Action Plan for Aotearoa New Zealand) แผนดังกล่าวมีจุดมุ่งเน้นอยู่ 3 ประการ ประกอบด้วยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี การตอบสนองต่อความทุกข์และพฤติกรรมการฆ่าตัวตาย รวมถึงการเยียวยาบุคคลและชุมชนภายหลังเกิดเหตุฆ่าตัวตาย อาร์เดนกล่าวอีกว่า อัตราการฆ่าตัวตายของนิวซีแลนด์ถือเป็นโศกนาฏกรรมระดับชาติในระยะยาว และเป็นหนึ่งในปัญหาที่ค้างคามานานหลายปี แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลง แต่แผนการและการดำเนินงานของรัฐบาลก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ “เราไม่สามารถหาคำตอบหรือแก้ไขปัญหานี้ได้โดยเร็ว แต่ความพยายามของเราจะช่วยให้การสนับสนุนผู้คนที่กำลังมีความทุกข์โศกได้มากขึ้น “หนึ่งชีวิตที่เสียไปจากการฆ่าตัวตาย นั้นมีคุณค่าเกินกว่าจะเสียไป ฉันเชื่อมั่นว่ากลยุทธ์และแผนปฏิบัติการป้องกันการฆ่าตัวตาย จะทำให้เราเดินอยู่บนเส้นทางที่มีผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายน้อยลง นอกจากนี้ สำนักงานป้องกันการฆ่าตัวตายจะจัดหาผู้นำทีมที่แข็งแกร่ง และติดตามความคืบหน้าของแผนป้องกันดังกล่าวต่อไป เดวิด คลาร์ก กล่าวต่อว่า “ต้องใช้เวลาในการสร้างบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ๆ รวมถึงการขยายทีมและยกระดับบุคลากรด้านสุขภาพจิตของเรา อย่างไรก็ดี เรากำลังดำเนินงานเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายอย่างไม่หยุดยั้ง” ตัวเลขการฆ่าตัวตายในนิวซีแลนด์พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ โดยคาดว่านับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีผู้จบชีวิตตนเอง 685 ราย สูงกว่าปีก่อน 17 ราย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 แม้จะมีความคืบหน้า แต่แถลงการณ์ที่เผยแพร่โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันจันทร์ (9 ก.ย.) กลับระบุว่าในทุกๆ 40 วินาที จะมีประชากรหนึ่งคนบนโลกทำอัตวินิบาตกรรม พร้อมเรียกร้องให้ทุกประเทศเสริมสร้างการป้องกันการฆ่าตัวตายและการให้ความรู้ในประเด็นดังกล่าวขอบคุณข้อมูลจาก : www.xinhuathai.com