จากเรื่องราวของแพรรี่ สาวประเภทสองสู้ชีวิต ที่เขาถูกบริษัทผู้ผลิตมือถือยักษ์ใหญ่ ปฎิเสธเพราะเขาเป็นกะเทย! ทั้งที่เขาแสดงความรู้และศักยภาพให้ทางบริษัทเห็นแล้วว่าเขาสามารถทำได้ แต่ทางบริษัทก็ยังยืนยันคำเดิมคือ ไม่มีนโยบายรับสาวประเภทสองเข้าทำงาน
อ่านข่าว
เมื่อเรื่องราวถูกเผยแพร่ออกไป เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก เพราะในยุคที่สังคมเปิดกว้างบวกกับนโยบายของทางบริษัท ที่ประกาศยังชัดเจนว่า
จะไม่อดทนเพิกเฉยต่อพฤติกรรมที่คุกคามหรือเลือกปฏิบัติบนพื้นฐานของ อายุ ความพิการ ชาติพันธุ์ การปฏิบัติใดๆต่อลูกจ้าง”
จันได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณแพรรี่ วันชนะ คุณแพรี่เปิดใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับจันว่า ตนไม่คิดว่าเพศสภาพจะมาก่อนความรู้และศักยภาพของพนักงานซึ่งขัดกับภาพลักษณ์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ก้าวหน้าในทุกๆด้าน
ภาพจากอีจัน
ก่อนหน้านี้ตนยอมรับว่าเครียดและเค้งขว้างมาก เพราะตนก็มีภาระและหน้าที่ต้องรับผิดชอบ การตัดสินใจลาออกจากงานที่มีแล้วต้องมาตกงาน เพราะแค่เพศสภาพมันแย่มาก 3 เดือนที่ตนต้องหางาน 3 เดือนที่ตนต้องดิ้นรน มันแย่จริงๆ
คุณแพรรี่เล่าเหตุการณ์ให้จันฟังอีกครั้งว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานเป็นพนักงานขายหน้าร้านของบริษัทแห่งหนึ่ง แล้วก็มีเพื่อนมาชักชวนว่า บริษัทผู้ผลิตมือถือยักษ์ใหญ่ กำลังเปิดรับสมัครพนักงานขายเช่นกัน ตนจึงตัดสินใจผ่านเซลล์ของทางบริษัท สมัครเข้าทำงานเพราะความก้าวหน้าและเชื่อว่าตนจะสามารถนำเงินมาช่วยเหลือครอบครัวได้มากขึ้น
ต่อมาได้มีการพูดคุยผ่านเซลล์ โดยการส่งเอกสารและเรซูเม่ ที่คุณแพรรี่บอกว่า ระบุคำนำหน้าอย่างชัดเจนว่า นาย… ไม่ใช่นางสาว… แต่เซลล์ไม่ได้ทักท้วงถึงเรื่องนี้แค่บอกคุณแพรรี่ว่า อย่าพึ่งลาออกจากงานเดิม ต้องรอให้ทำข้อสอบผ่านก่อนถึงจะสามารถเข้าทำงานได้ ซึ่งคุณแพรรี่ก็ตกลง
ภาพจากอีจัน
การทำข้อสอบ เกณฑ์การรับเข้าเป็นพนักงานคือ ต้องผ่าน 15/20 คะแนน คุณแพรี่สามารถทำได้ 18 คะแนน ซึ่งแน่นอนว่าผ่านเกณฑ์การคัดเลือกพร้อมที่ดำเนินการในขั้นตอนต่อไป คือการเข้าอบรมก่อนเข้าอบรมก่อนเป็นพนักงาน 5 วันที่ศูนย์ใหญ่ของทางบริษัท ที่กรุงเทพฯ
คุณแพรรี่จองตั๋วเครื่องบินเพื่อนเดินทางเข้าอบรม ก่อนถึงวันเดินทาง 2 วัน จู่ๆเซลล์ก็โทรมาพร้อมกับบอกข่าวร้ายว่า ทางบริษัทไม่มีนโยบายรับสาวประเภทสองเข้าทำงาน และยื่นข้อเสนอว่า ในวันเข้าอบรม 5 วันนี้ขอให้คุณแพรี่ ใส่วิกและรัดหน้าอกเพื่อมาเข้าอบรมได้ไหม
ภาพจากอีจัน
คุณแพรี่ขอเวลาคิดและจะติดต่อกลับ ตนตัดสินใจปฎิเสธเพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ฝืนตัวเอง และอึดอัด มันเหมือนตัวตลก ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำแบบนั้น ทางบริษัทจึงยื่นข้อเสนอให้ตนใหม่อีกครั้งคือ ให้คุณแพรรี่ไปเป็นพนักงาน พาร์ทไทม์ ที่สาขาเกาะสมุย แต่ตอนบอกว่าตนมีพ่อที่ต้องดูแลไม่สามารถที่จะไปทำงานที่สาขานั้นได้
ทางบริษัทแสดงความรับผิดชอบด้วยการชดเชยเงินให้ 400 บาทเป็นค่าเดินทาง และบอกว่า จะหางานใหม่ให้ แต่เป็นการติดต่อบริษัทที่ไม่มีการประกาศรับพนักงานเพิ่มแค่ให้ช่องทางการติดต่อเซลล์มาเพียงเท่านั้น เรียกว่าการรับผิดชอบ?
คุณแพรี่เคว้งคว้างอยู่ 3 เดือนที่ต้องดินรนหางานใหม่ เสียโอกาสเสียความรู้สึก เสียสุขภาพจิต แต่โชคดีที่รู้จักกลุ่มท้องฟ้าสีรุ้ง กลุ่มสาวประเภทสองยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพร้อมที่จะขอความยุติธรรมคืน ทำให้ตนรู้ว่า กฎหมายและความถูกต้องยังมีมากมายที่ตนไม่รู้
ภาพจากอีจัน
วันนี้แม้คุณแพรรี่จะได้งานทำ จากการที่หาเอง ย้ำ! งานที่ได้ทำไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่บริษัทดังกล่าวรับผิดชอบ เป็นงานที่ตนหาเอง แต่ย้อนไปเมื่อเหตุการณ์นี้ ถือเป็นความทรงจำแย่ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตน สาวประเภทสอง หรือคนที่ถูกดูเรื่องเพศสภาพถูกปฏิเสธความสามารถเพราะเข้ามองรูปลักษณ์ภายนอก มันเป็นเรื่อง น่าเศร้า และไม่ควรเกิดขึ้นไม่ว่ากับใครก็ตาม
จันฟังแล้วยังรู้สึกจุกไม่หาย ไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นกับใคร เพราะแค่เขาเป็นแบบนี้ แบบที่คุณตัดสินเองว่ามันไม่ควร ทั้งที่เขายังไม่มีโอกาสแสดงสิ่งที่เขาควรทำออกมาด้วยซ้ำ