เป็นลูกจ้าง มันเหนื่อย นอกเวลางาน ไม่ตอบไลน์ ไม่รับสาย ผิดไหม

ทนายเจมส์ เฉลยแล้ว! ลูกจ้าง ไม่ตอบไลน์ ไม่รับสาย ไม่อ่านอีเมล นอกเวลางาน ผิดไหม-ไล่ออกได้รึเปล่า?

พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน มีบทบัญญัติบางประการ ซึ่งไม่ตอบโจทย์รูปแบบการทำงานในปัจจุบันที่รูปแบบการทำงานในองค์กรธุรกิจต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปมาก โดยมีการทำงานจากที่บ้าน หรือเวิร์คฟอร์มโฮม รวมถึงสถานที่อื่น ซึ่งอยู่นอกสถานประกอบการของนายจ้างมากขึ้น

จึงได้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและออก พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2566 ซึ่งได้เพิ่มเติมบทบัญญัติ ที่จะส่งเสริมคุณภาพชีวิตของลูกจ้างให้ได้ความคุ้มครอง เป็นประโยชน์ในการประกอบกิจการของนายจ้าง

โดยสัปดาห์นี้ ‘ทนายเจมส์’ จะพาทุกคนไปเจาะลึกถึง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฉบับใหม่นี้กัน ซึ่งระบุว่า

พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2566 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2566 และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 18 เมษายน 2566 เหตุผลในการประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ คือ โดยที่พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันมีบทบัญญัติบางประการไม่เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน สมควรแก้ไขเพิ่มเติม

โดยกำหนดให้นายจ้างและลูกจ้าง สามารถตกลงกันให้ลูกจ้าง สามารถนำงานไปทำนอกสถานประกอบกิจการ หรือนอกสำนักงานของนายจ้างได้ เพื่อเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและการทำงานของลูกจ้าง และเพื่อประโยชน์ในการประกอบกิจการของนายจ้าง ตลอดจนมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาจราจรลดการใช้พลังงานและเชื้อเพลิง จึงจำเป็นต้องตรา พ.ร.บ.นี้

พ.ร.บ.นี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2566”

มาตรา 23/1 เพื่อประโยชน์ในการประกอบกิจการของนายจ้าง และเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและการทำงานของลูกจ้าง หรือในกรณีมีความจำเป็น นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงให้ลูกจ้าง นำงานในทางการที่จ้างหรือที่ตกลงไว้กับนายจ้าง ซึ่งมีลักษณะหรือสภาพของงานที่ลูกจ้างสามารถปฏิบัติงานนอกสถานประกอบกิจการ หรือนอกสำนักงานของนายจ้างได้ โดยสะดวกให้ลูกจ้างนำงานดังกล่าวไปทำที่บ้านหรือที่พักอาศัยของลูกจ้าง หรือตกลงให้ลูกจ้างทำงานผ่านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสถานที่ใดๆ ได้

การตกลงตามวรรคหนึ่ง ให้นายจ้างจัดทำเป็นหนังสือหรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าถึงและนำกลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง โดยอาจตกลงให้มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

(1) ช่วงระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการตกลง

(2) วัน เวลาทำงานปกติ เวลาพัก และการทำงานล่วงเวลา

(3) หลักเกณฑ์การทำงานล่วงเวลาและการทำงานในวันหยุด รวมทั้งการลาประเภทต่างๆ

(4) ขอบเขตหน้าที่การทำงานของลูกจ้างและการควบคุมหรือกำกับการทำงานของนายจ้าง

(5) ที่จำเป็น อันเนื่องจากการทำงาน

เมื่อสิ้นสุดเวลาทำงานปกติตามที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันหรือสิ้นสุด การทำงานตามที่นายจ้างมอบหมาย ลูกจ้างมีสิทธิปฏิเสธในการติดต่อสื่อสารไม่ว่าในทางใดๆ กับนายจ้าง หัวหน้างานผู้ควบคุมงาน หรือผู้ตรวจงาน เว้นแต่ลูกจ้างได้ให้ความยินยอมโดยทำหนังสือไว้ล่วงหน้าก่อน

ลูกจ้างซึ่งทำงานที่บ้าน หรือที่พักอาศัย หรือทำงานผ่านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสถานที่ใดๆ มีสิทธิเช่นเดียวกับลูกจ้างที่ทำงานในสถานประกอบกิจการหรือสำนักงานของนายจ้าง

ดังนั้น การทำงานตามที่นายจ้างมอบหมาย ลูกจ้างมีสิทธิปฏิเสธในการติดต่อสื่อสารไม่ว่าในทางใดๆ กับนายจ้าง หัวหน้างานผู้ควบคุมงาน หรือผู้ตรวจงาน เช่น ทางแอปพลิเคชั่น LINE Messenger Facebook หรือช่องทางสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มอื่นๆ เว้นแต่ลูกจ้างได้ให้ความยินยอมโดยทำหนังสือไว้ล่วงหน้าก่อน

เมื่อลูกจ้างปฏิเสธการติดต่อสื่อสารนอกเวลางานกับนายจ้าง ประกอบกับลูกจ้างไม่ได้ให้ความยินยอมเป็นหนังสือไว้ล่วงหน้า นายจ้างจะอาศัยเหตุดังกล่าวบอกเลิกสัญญาจ้างไม่ได้

กรณีที่นายจ้างบอกเลิกสัญญาโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย นายจ้างจะต้องรับผิดชอบ ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับลูกจ้าง ไม่ว่าจะเป็น สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าชดเชยตามระยะเวลางาน หรือค่าเสียหายอื่นๆ

กฎหมายแรงงานฉบับใหม่! หนุนคนเวิร์คฟอร์มโฮม ปฏิเสธนายจ้างได้หลังเลิกงาน
คลิปอีจันแนะนำ
มหากาพย์พลอยแดง 29 ปี ไร้การเยียวยา