โควิดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 คนติดมากถึง 76%

นพ.ธีระ เผย โควิดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 คนติดมากถึง 76% ขณะที่โอมิครอน สร้างลูกหลานแล้วกว่า 300 สายพันธุ์

สุดมาก! โควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน สร้างลูกหลานกว่า 300 สายพันธุ์ ที่ทำให้มวลมนุษย์ติดมากสุด คือ สายพันธุ์ย่อย BA.5 ติดมากถึง 76%

วันนี้ (20 ต.ค.65) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเชื้อโควิด 19 เพิ่ม 311,636 คน ตายเพิ่ม 822 คน รวมแล้วติดไป 631,174,996 คน เสียชีวิตรวม 6,575,258 คน

โดย 5 อันดับแรกประเทศที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ฝรั่งเศส ไต้หวัน ญี่ปุ่น อิตาลี และเกาหลีใต้

ส่วนภาพรวมโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron)ป ทั่วโลก Kerkhove MV จากองค์การอนามัยโลกให้ข้อมูลล่าสุดว่า ปัจจุบันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron นั้นครองการระบาดทั่วโลก โดยมีลูกหลานมากกว่า 300 สายพันธุ์ย่อย

ในจำนวนนี้ มีถึง 76% ที่สืบเชื้อสายมาจากสายพันธุ์ย่อย BA.5

ขณะที่การติดเชื้อโควิด-19 ในสตรีตั้งครรภ์

US CDC เผยแพร่ข้อมูลวิชาการที่ทำการทบทวนอย่างเป็นระบบ เมื่อวานนี้ 19 ตุลาคม 2565

สตรีที่ตั้งครรภ์และติดเชื้อโรคโควิด-19 นั้น จะมีความเสี่ยงทั้งต่อตนเองและทารกในครรภ์ ดังนี้

ความเสี่ยงต่อสตรีที่ตั้งครรภ์:

1. เสียชีวิตจากสาเหตุต่างๆ สูงกว่าคนไม่ติดเชื้อ 6 เท่า

2. คลอดก่อนกำหนด (น้อยกว่า 37 สัปดาห์) 1.6 เท่า

ความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์:

1. ทารกเสียชีวิตในครรภ์ (ตายคลอด) 1.8 เท่า

2. ทารกแรกเกิดเสียชีวิตใน 28 วันหลังคลอด 2.35 เท่า

3. ภาวะที่ทารกในครรภ์มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการขาดออกซิเจน (Fetal distress) 2.2 เท่า

ดังนั้น คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์จึงควรป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด ระมัดระวังเวลาใช้ชีวิตประจำวัน หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง สถานที่เสี่ยง รวมถึงกิจกรรมเสี่ยงต่างๆ

การฉีดวัคซีนจะช่วยลดความเสี่ยงลงได้ และได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัย

สำหรับทุกคน

การใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง เป็นกิจวัตร จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก

ความเสี่ยงในการติดเชื้อแพร่เชื้อ ภายใต้สภาพแวดล้อมทางสังคมปัจจุบันนั้น มีเพียงการตัดสินใจปฏิบัติตัวของแต่ละคนเท่านั้นที่จะเป็นตัวกำหนด

ทางที่ตัดสินใจปฏิบัติ เป็นทางที่เราเลือกที่จะเผชิญเอง

คลิปแนะนำอีจัน
คนเป็นทำเพื่อคนตายครั้งสุดท้ายรับส่งให้ถึงบ้าน