กระแสโซเชียลฮือฮา จนหลายคนต้องรีบเช็กเบอร์มือถือกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้แชร์ประสบการณ์ว่าโดนสวมรอยนำบัตรประชาชนไปเปิดเบอร์มือถือมากถึง 34 เบอร์ แต่เจ้าตัวใช้งานจริงเพียง 2 เบอร์ ขณะเดียวกัน ยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายอื่น ร่วมแชร์ประสบการณ์อีกว่า นอกจากถูกนำบัตรประชาชนไปเปิดเบอร์แล้ว ยังถูกเรียกเก็บค่าบริการตามมาภายหลังอีกด้วย
วานนี้ (6 ก.ค.66) สภาองค์กรของผู้บริโภค (สภาผู้บริโภค) จึงได้โพสต์เฟซบุ๊กแนะนำแอปพลิเคชัน 3 ชั้น ซึ่งถูกสร้างโดย คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบ และค้นหาเบอร์โทรศัพท์มือถือที่จดทะเบียนในชื่อและรหัสบัตรประชาชนของเราจากทุกเครือข่ายได้ ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
1.ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน 3 ชั้น ผ่านช่องทาง App Store / Play Store หรือผ่านทางเว็บไซต์ https://3steps.nbtc.go.th
2.ยืนยันตัวตน โดยสามารถไปสมัครใช้บริการแอปพลิเคชัน 3 ชั้น ได้ที่ศูนย์บริการเครือข่ายโทรศัพท์ที่ใช้งานเพียงเครือข่ายเดียว เเม้ว่าจะมีเบอร์โทรศัพท์มือถือมากกว่า 1 เครือข่ายก็ตาม
หลังจากนั้นสามารถเข้าแอปพลิเคชัน 3 ชั้น ผ่านโทรศัพท์มือถือที่มีอยู่ และสามารถตรวจสอบได้ว่ามีหมายเลขโทรศัพท์ใดบ้างที่ลงทะเบียนโดยหมายเลขบัตรประชาชนของเรา ซึ่งระบบจะตรวจสอบจากฐานข้อมูลของผู้ให้บริการทุกค่าย
หากพบว่ามีเบอร์โทรศัพท์แปลกที่ไม่เคยใช้งาน เข้าข่ายต้องสงสัยว่าถูกลักลอบนำเอาเลขบัตรประชาชนไปเปิดใช้โดยเจ้าของไม่รู้ตัว ผู้ใช้งานสามารถแจ้งไปยังเครือค่ายผู้ให้บริการเพื่อดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ สภาผู้บริโภค มองว่าหน้าที่การตรวจสอบและป้องกันไม่ควรถูกผลักให้เป็นภาระของผู้บริโภคเพียงฝ่ายเดียว จึงได้เสนอให้เครือค่ายมือถือมีมาตรการที่เข้มงวดและรัดกุมมากยิ่งขึ้น ในการตรวจสอบและยืนยันตัวตนผู้ใช้ก่อนเปิดเบอร์โทรศัพท์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม หากใครที่ได้รับความเสียหายจากการแอบอ้างนำบัตรประจำตัวประชาชนไปใช้เปิดเบอร์โทรศัพท์มือถือ สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์บริการของค่ายมือถือที่ใช้งานอยู่ หรือศูนย์รับเรื่องร้องเรียนของสำนักงาน กสทช. เบอร์สายด่วน 1200
ข้อมูลจาก: สภาองค์กรของผู้บริโภค , https://marketeeronline.co