ยิ่งใหญ่เป็นบุญ อีจันได้ชมบารมีหลวงพ่อพุทธโสธร ริ้วขบวนทางน้ำ ประจำปี 2565
วันนี้ทีมอีจันตื่นจากกรุงเทพฯ ตั้งเเต่ฟ้ายังไม่ส่าง ก็ตรงปรี่มาที่ท่าเรือร้านเอกเขนก เพื่อมารอตั้งโต๊ะเครื่องบูชาที่บริเวณท่าน้ำหน้าบ้านพัก ตามรายทางริมฝั่งลำน้ำบางปะกง เพื่อรอสักการะขบวนเรือหลวงพ่อโสธรที่กำลังเคลื่อนผ่าน โดยมีขบวนเรือที่ได้มีการตกแต่งอย่างสวยงามจำนวน 17 ลำ ล่องไปตามลำน้ำตามความเชื่อแต่โบราณว่าหลวงพ่อโสธร ลอยมาตามลำน้ำบางปะกง
โดยปล่อยขบวนเรือออกจากท่าน้ำวัดหลวงพ่อโสธรฯ ในเวลา 06.30 น. โดยมีขบวนเรือที่ได้มีการตกแต่งอย่างสวยงามจำนวน 17 ลำ ล่องไปตามลำน้ำตามความเชื่อแต่โบราณว่าหลวงพ่อโสธร ลอยมาตามลำน้ำบางปะกงก่อนย้อนลงมาเทียบท่ายังที่ท่าน้ำวัดท่าอิฐ ในเวลา 06.20 น. จากนั้นจะมุ่งหน้าขึ้นไปทางทิศเหนือเทียบท่ายังที่ตลาดบ้านใหม่ 100 ปี ในเวลา 07.15 น. แวะเทียบท่าตลาดบน (บ้านใหม่) ในเวลา 07.50 น. แวะท่าน้ำโรงต้มเวลา 08.10 น. เข้าเทียบท่าน้ำวัดสายชล ณ รังสี (วัดแหลมบน) เวลา 08.40 น.
เทียบท่าวัดสัมปทวนนอก เวลา 09.25 น. ถึงวัดจุกเฌอ เวลา 10.05 น. เทียบท่าวัดสมานรัตนาราม เวลา 11.55 น. เทียบท่าวัดสาวชะโงก อ.บางคล้า เวลา 12.45 น. ถึงวัดใหม่บางคล้า เวลา 13.25 น. เข้าเทียบท่าวัดสามร่ม อ.คลองเขื่อน เวลา 14.05 น. เทียบท่าวัดคุ้งกร่าง เวลา 14.35 น. เจ้าสู่วัดปากน้ำโจ้โล้ เวลา 15.05 น. และถึงยังที่ว่าการ อ.บางคล้า ในเวลา 16.05 น. ตามลำดับ
เรือทุกลำซึ่งประดับประดาด้วยธงทิวสีสันสวยงาม มีเครื่องดนตรีประโคม และเรือติดตามเป็นริ้วขบวน ล่องไปตามลำน้ำบางปะกง เรือจะหยุดจอดเพื่อให้ประชาชนที่อยู่ริมน้ำได้นมัสการกราบไหว้บูชาหลวงพ่อตามท่าเรือเป็นระยะๆ เรือทุกลำประชาชนทุกหมู่เหล่า หน่วยงาน สถาบันการศึกษา รวมทั้งภาคเอกชนต่างๆ ร่วมในการจัดวงดุริยางค์และริ้วขบวนแห่หลวงพ่อพระพุทธโสธร เป็นที่สนุกสนานครื้นเครง และเป็นความทรงจำของคนเมืองฉะเชิงเทรา นับว่าหลวงพ่อพระพุทธโสธรเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจชาวแปดริ้วโดยแท้ สำหรับในงานจะมีการละเล่นมหรสพมากมาย
ขณะที่บรรยากาศระหว่างเส้นทางผ่านในวันนี้นั้น ได้มีประชาชนตั้งโต๊ะเครื่องบูชาที่บริเวณท่าน้ำหน้าบ้านพักตามรายทางริมฝั่งลำน้ำบางปะกง
เพื่อรอสักการะขบวนเรือหลวงพ่อโสธรที่เคลื่อนผ่าน พร้อมได้มีการถ่ายคลิบภาพออกมาเผยแพร่ อวดความเป็นสิริมงคลกันบนโลกโซเชียล แสดงให้เห็นถึงแรงศรัทธาต่อองค์หลวงพ่อของประชาชนชาว จ.ฉะเชิงเทรา
ที่ยังคงเฝ้ารอคอยขบวนเรือเคลื่อนผ่านที่หน้าบ้านอย่างแรงกล้า และต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีอย่างไม่เคยขาดหายไป จากความศรัทธามายาวนานนับแต่บรรพบุรุษถึง 132 ปีที่ผ่านมา
ประเพณีการแห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำ ถือเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่ดั้งเดิม นับเป็นเวลากว่า 100 ปีแล้ว โดยมีสาเหตุมาจากการเกิดโรคระบาดทางน้ำ และชาวบ้านร่วมใจกันขอพรองค์หลวงพ่อโสธรให้ช่วยขจัดปัดเป่าโรคภัย โดยอัญเชิญหลวงพ่อโสธรแห่ทางน้ำตั้งแต่นั้น เป็นต้นมา ถือเป็นประเพณีของจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ประชาชนรอคอยขบวนองค์พระพุทธโสธรผ่านทางน้ำ
ส่วนตำนานของหลวงพ่อพุทธโสธร ซึ่งเล่ากันว่าท่านลอยๆจมๆมาตามกระแสน้ำในแม่น้ำบางปะกง แล้วมาโผล่ที่หน้าวัดโสธร ซึ่งตอนนั้นยังมีชื่อว่า “วัดหงส์” อาจารย์ไสยศาสตร์ท่านหนึ่งได้ตั้งศาลเพียงตาบวงสรวง แล้วใช้สายสิญจน์คล้องพระหัตถ์อัญเชิญขึ้นบนฝั่ง นำไปประดิษฐานไว้ในวิหาร
หลวงพ่อพุทธโสธรเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้างเพียงศอกเศษ มีพุทธลักษณะที่งดงามมาก ทั้งพระหัตถ์ พระเนตร ตลอดจนพระกรรณ เป็นลักษณะเฉพาะที่สร้างกันในหลวงพระบางและเวียงจันทน์ ซึ่งเรียกกันว่า “พระลาว” สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากลาว
เมื่อคราวรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสเมืองฉะเชิงเทราใน พ.ศ.2451 ได้ทอดพระเนตรหลวงพ่อพุทธโสธร ซึ่งตอนนั้นยังเอวเล็กเอวบาง ทรงพระราชนิพนธ์ลักษณะไว้ว่า
“…ดูรูปตักและเอวบาง เป็นทำนองเดียวกับพระพุทธรูปเทวปฏิมากร…”
พระพุทธรูปเทวปฏิมากร ก็คือพระประธานในพระอุโบสถวัดพระเชตุพน ที่มีพุทธลักษณะงดงามมากองค์หนึ่ง
เมื่อข่าวคราวความงดงามของหลวงพ่อโสธรแพร่ออกไป พระสงฆ์ที่วัดหงส์เกรงว่าจะมีโจรใจบาปมาขโมย จึงนำปูนมาพอกจนกลายเป็นหน้าตักกว้าง ๓ ศอก ๕ นิ้ว ที่พระศอก็พอกจนหนากันถูกตัดพระเศียร แล้วปิดทองทับ หลวงพ่อโสธรที่เห็นเทอะทะในวันนี้ องค์เดิมที่อยู่ภายในเอวบางงดงาม
ถือเป็นบุญตาเเละบารมีชีวิตยิ่งนัก ที่ได้มาชมบารมีเเละความตระการตาขององค์หลวงพ่อโสธรแห่ทางน้ำ
คลิปอีจันแนะนำ
ซุ่ม ดัก จับ กัมพูชาตัดไม้