พลเรือเอกเชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พลเรือเอก ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ แถลงข่าวความคืบหน้าเหตุการณ์ เรือหลวงสุโขทัยอับปาง กลางอ่าวไทย ณ ห้องชมวัง หอประชุมกองทัพเรือ โดย ผบ.ทร. กล่าวว่า ขอเเสดงความเสียใจต่อญาติพี่น้อง ของกำลังพลบนเรือหลวงสุโขทัยทุกคน วันนี้เราพบร่างของผู้เสียชีวิต จากการลาดตระเวนช่วยเหลือ โดยวันนี้พบลูกเรือในทะเล 6 ราย เป็นผู้ประสบภัยที่ยังมีชีวิต 1 ราย และเสียชีวิต 5 ราย โดย 6 รายที่พบอยู่ในสภาพสวมเสื้อชูชีพ
โดย ร.ล.สุโขทัย มีอายุ 36 ปี ปกติเเล้วเรือรบในลักษณะเดียวกันนี้ จะมีอายุใช้งาน 40 ปี เเต่สภาพของ ร.ล.สุโขทัย และขีดความสามารถ รวมทั้งอุปกรณ์บนเรือทุกประเภท ยังสามารถใช้การได้ดี ระบบอาวุธทั้งหมดยังสามารถใช้งานได้ ปฏิบัติราชการใน กองทัพเรือภาคที่ 1 รับผิดชอบทะเลอ่าวไทยตอนบน
วันที่เกิดเหตุ คือวันที่ 18 ธ.ค. 65 เรือได้รับภารกิจออกลาดตระเวน ค้นหา ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เเละสนับสนุนการจัดงานครบรอบ 100 ปี กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และได้นำกำลังพลไปด้วย แต่จากสภาพอากาศในช่วงนั้นมีมรสุม กำลังเเรง ทำให้เกิดคลื่นลม ทะเลมีคลื่น 3-4 เมตร
เรือสุโขทัย ประสบปัญหาจากการรับข้อมูลเบื้องต้น ทำให้ต้องอยู่ในกระแสลมและคลื่นแรง ส่งผลให้น้ำเข้าเรือปริมาณมาก โดยน้ำเข้าหัวเรือ จนทำให้เกิดความเสียหายเครื่องไฟฟ้า เครื่องจักร ลูกเรือพยายามสูบน้ำออกตามขั้นตอน เเต่ไม่สามารถสูบออกได้ เรือสุโขทัยไม่สามารถที่จะสู้กับน้ำทะเลได้ ก็ใช้วิธีการผนึกน้ำ เพื่อให้เรือยังลอยอยู่ จนทำให้ไม่สามารถบังคับเรือได้ เครื่องยนต์ซ้ายดับ เหลือทางขวาเพียงด้านเดียว สุดท้ายน้ำท่วมจนทำให้เครื่้องไฟฟ้าดับทั้งหมด สูญเสียเครื่องจักรใหญ่ เรือจึงมีสภาพลอยลำกลางทะเล และเริ่มเอียงตามที่เห็น
ระหว่างที่เรือเอียง ก็มีการขอความช่วยเหลือไปที่ ทร. ภาค 1 และได้ส่งเรือหลวงกระบุรีไปช่วยเหลือ จากสภาพคลื่นลมในเวลานั้นยังเเรงอยู่ ทร.เลยสั่งให้ เรือหลวงอ่างทอง และเรือหลวงภูมิพล รวทมทั้ง ฮ. 2 ลำ เข้าเสริมการช่วยเหลือ
สภาพน้ำที่เข้ามาในเรือเริ่มคงที่ เรือเอียง 60 องศา จึงมีเเนวคิดว่าจะใช้เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่เข้าไปช่วย เเต่ปรากฎว่าเมื่อเดินทางไปถึง ไม่สามารถนำเครื่องสูบน้ำเข้าไปได้ เพราะคลื่นลมเเรง เรือหลวงกระบุรีพยายามเอาเรือเล็ก ขนย้ายกำลังพลไปเข้าฝั่งก็ทำไม่ได้ เรือเริ่มเอียงมากขึ้น สุดท้ายเรือเริ่มจมจากด้านหลัง