ย่าเด็กหญิงวัย 3 ขวบ เข้าแจ้งความเพิ่มข้อหา “ข่มขืนเด็ก” หลังผลชันสูตรร่างกายพบว่าอวัยวะเพศฉีกขาด
จากกรณีเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ถูกแม่และพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกาย จนบาดเจ็บสาหัส ต้องผ่าตัดสมองและเจาะคอ ส่วนลูกชายวัย 2 ขวบ ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยล่าสุดผลชันสูตรของน้องเจ้าขา พบว่าถูกรุกล้ำทางเพศ
วันนี้ (4 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สภ.บางบัวทอง ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย นางอนันต์ มาเจริญศรี อายุ 64 ปี ย่าของเด็กหญิงวัย 3 ขวบและเด็กชายวัย 2 ขวบ ได้เดินทางมาพบ พันตำรวจเอกพฤฒ จำรูญศาสน์ ผู้กำกับการ สภ.บางบัวทอง เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี พร้อมแจ้งความข้อหาข่มขืนเด็กเพิ่มเติม เพราะผลชันสูตรร่างกายของน้องเจ้าขาพบว่าอวัยวะเพศฉีกขาด
แต่เมื่อมาถึงได้พูดคุยกับพันตำรวจเอกพฤฒ ถึงความคืบหน้าของคดีว่าจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ซึ่งทางพันตำรวจเอกพฤฒ ได้แจ้งให้ทางย่าและทนายรณรงค์ทราบแล้วว่าคดีของเด้กชายวัย 2 ขวบ พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุทำให้เสียชีวิต แต่ในส่วนคดีของเด็กหญิงวัย 3 ขวบ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บไปจนถึงข้อหาอนาจารทั้งหมดแล้ว
ส่วนที่ผลชันสูตรร่างกายของเด็กหญิงวัย 3 ขวบ พบว่าอวัยวะเพศฉีกขาดนั้น สามารถเป็นไปได้หลายอย่าง มันอาจจะไม่ได้เกิดจากอวัยวะเพศ แต่เกิดจากการตีแล้วทำให้เกิดบาดแผลก็ได้ ดังนั้นตอนนี้รอสอบปากคำคุณหมอเพิ่มเติม ต้องมีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่ามีการข่มขืน
โดยทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย จึงอยากให้เชื่อใจตำรวจว่าเราทำเพื่อเด็ก เพียงแต่ไม่ได้แจ้งให้ทราบ เพราะเป็นรายละเอียดที่อยู่ในสำนวน หากทางครอบครัวสงสัยก็สามารถโทรสอบถามตนโดยตรงได้
ขณะที่เด็กหญิงวัย 3 ขวบและเด็กชายวัย 2 ขวบ ยังบอกอีกว่า ตัวเองเชื่อว่าแม่เขาและพ่อเลี้ยง คงไม่ยอมรับความจริง แต่ตัวเองก็อยากให้ทั้งคู่พูดความจริงให้หมดได้แล้ว พร้อมยอมรับว่า ตอนนี้คับแค้นใจมากและไม่ขอให้อภัย
ซึ่งวันนี้หลังจากพูดคุยกับทางตำรวจแล้ว ก็ยังติดใจในหลายประเด็นว่าทำไมคดีถึงไม่รีบรวบรัดหรือสืบข้อเท็จจริงให้หมด โดยเฉพาะในส่วนของหลานชายวัย 2 ขวบ ที่เสียชีวิต อยากให้ตำรวจได้สืบข้อเท็จจริงให้ละเอียดว่าใครเป็นคนทำให้เสียชีวิต ยิ่งวันนี้ครบรอบ 100 วันที่หลานเสียชีวิต ตัวเองยิ่งทุกข์ใจ หลังจากนี้ตั้งใจจะกลับไปทำบุญให้
อย่างไรก็ตาม ย่าของเด็กหญิงวัย 3 ขวบและเด็กชายวัย 2 ขวบ ยังทิ้งท้ายด้วยว่า “ตอนนี้เหนื่อย แต่ไม่ท้อ และจะสู้ให้ถึงที่สุด พร้อมทั้งขอความกรุณาต่อสื่อและสังคมให้ช่วยน้องพีพีและน้องเจ้าขาได้รับความเป็นธรรม ตัวเองคิดถึงหลานมาก ทุกวันนี้ได้แต่ดูคลิปของหลาน เพราะคนที่บ้านยังทำใจไม่ได้และไม่เคยคิดว่าหลานจะมีสภาพแบบนั้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ยังเจอ และเห็นว่าหลานยังแข็งแรงดีอยู่ ยอมรับว่าเสียใจมากหลังต้องสูญเสียหลานชายไป โดยเฉพาะปู่ที่ยังช็อคมาก หลังจากนี้ขอให้หลานไปเป็นเทวดาตัวน้อยๆ และขอให้กลับมาเกิดใหม่”
ด้าน ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้ได้มาแจ้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเชาเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี และให้สอบประเด็นนี้กับคุณหมอเพิ่มเติม ซึ่งผู้กำกับทำตามหลักฐานที่ปรากฏ เราสงสัยและคล่องใจประเด็นไหนก็ได้แจ้งให้ทราบไปหมดแล้ว เราอยากช่วยเด็กจะมาเจ็บและเสียชีวิตแบบนี้ไม่ได้ ในระยะยาวเราต้องถอดบทเรียนเรื่องนี้อย่างจริงจัง ว่าวันที่ 26 พฤษภาคม เด็กตายคนแรก ทำไมยังนิ่งอยู่ ตามกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก สวัสดิภาพของผู้ถูกกระทำและความรุนแรงในครอบครัว จะให้เวลากับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมด 2 วันที่จะสามารถช่วยเหลือเด็กคนที่อยู่ในครอบครัวได้ โดยที่ไม่ต้องรอหมายศาล เพราะมันคือการคุ้มครองเด็ก แต่กรณีดังกล่าว รอ 2 วันจะต้องเอาเด็กออกมาแล้ว แต่กรณีนี้บอกว่ารอดำเนินการหลายอย่าง
ทั้งนี้ เราจะเอากรณีนี้เข้าไปยื่นวุฒิสภาเกี่ยวกับสิทธิ์ของเด็ก ในเชิงโครงสร้างถ้าหากหมอแจ้งว่า มีอาการแปลกจนต้องส่งไปชันสูตร ทำไมยังไม่มีมาตรการในการคุ้มครองเด็กคนที่ 2 ทำไมถึงไม่เกิดมาตรการนี้ ตามขั้นตอนของกฎหมาย
ล่าสุดทางด้าน แม่แท้ๆและพ่อเลี้ยงยังไม่ยอมรับ ตอนนี้ เป็นการแจ้งเป็นข้อกล่าวหาเพิ่มเติม สามารถติดตามความคืบหน้าได้ที่อีจัน!
คลิปแนะนำอีจัน
ทลายผับเด็ก!