เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 66 นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ได้เข้าหารือกับ บิ๊กต่อ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงแนวทางการควบคุมอาวุธปืน หลังเกิดเหตุการณ์ เด็กวัย 14 ปี พกอาวุธปืนก่อเหตุกราดยิงในห้างสรรพสินค้า สยามพารากอน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ต.ค. 66
นายกฯ เศรษฐา เปิดเผยว่า วันนี้ที่เข้ามาหารือกับ บิ๊กต่อ โดยมีเรื่องหลักที่สำคัญคือยกระดับมาตรฐานการควบคุมอาวุธปืน ซึ่งอาจจะมีการแก้กฎหมายให้เข้มงวดมากขึ้นทั้งการซื้อหา ครอบครองอาวุธปืนทุกชนิด ทั้งปืนจริง ปืนปลอม ปืนบีบีกัน หรือสิ่งเทียมอาวุธต่างๆ รวมไปถึงปืน แบลงค์กัน ที่มักถูกนำไปดัดแปลงให้เหมือนปืนจริง พร้อมกับยังได้รับรายงานข้อมูลที่น่าตกใจว่า ในแต่ละเดือนมีการส่ง ปืนแบลงค์กัน เข้ามาที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเพื่อทำการตรวจสอบ เพราะปืนดังกล่าวถูกนำไปใช้ก่อเหตุอาชญากรรมกว่า 100 กระบอก
ซึ่งตรงส่วนนี้เอง บิ๊กต่อ เผยว่า ปืนแบลงค์กัน เป็นช่องว่างทางกฎหมาย ทุกวันนี้ไม่ใช่สิ่งต้องห้าม ตำรวจจับไม่ได้ ต่อให้ดัดแปลงเหมือนอาวุธปืนจริงก็ยังไม่แน่ใจว่ากฎหมายให้จับได้หรือไม่ เว้นแต่จะมีการนำปืนแบลค์กันไปก่อเหตุอาชญากรรมจึงสามารถจับกุมได้
นอกจากการพูดคุยกับ ผบ.ตร. แล้ว นายกฯเศรษฐา ยังได้ยกหูสายตรงหากระทรวงมหาดไทยให้ดำเนินการเกี่ยวกับใบอนุญาตพกปืน ซึ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย รับลูกในทันที เตรียมหารือกรมการปกครองงดออกใบอนุญาตการพกพาอาวุธปืนให้แก่บุคคลทั่วไปทุกกรณี และในส่วนของปืนบีบีกัน จะบังคับให้ต้องทำการขึ้นทะเบียนทั้งหมดไม่ว่าจะใช้เพื่อการสันทนาการหรือการใดก็ตาม