ยายวัย 76 ปี สุดช้ำใจ เจอลูกจ้างแสบ หลอกให้ซื้อที่ดินทิพย์ สูญเงินเกือบล้าน!!!
วันนี้ (02 ส.ค. 65) นางเพียง ยายวัย 76 ปี เจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมู ใน ต.หนองกระทิง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาเรียกร้องสื่อข่าวอีจันในพื้นที่ หลังนางพิมพ์พิกา อายุประมาณ 45 ปี และครอบครัว ซึ่งเป็นอดีตลูกจ้างที่มารับจ้างเลี้ยงหมูที่ฟาร์มของยาย หลอกยืมเงินครั้งละหลักพันถึงหลักหมื่น อ้างว่าเดือดร้อนรวมทั้งสิ้นประมาณ 200,000 บาท แสบกว่านั้นคือ หลอกให้ยายซื้อที่ดินสูญเงินอีกกว่า 500,000 บาท แต่เป็น ที่ดินทิพย์!
ยายเล่า สุดช้ำใจ เลี้ยงดูนางพิมพ์และครอบครัวอย่างดี แจ้งความที่ สภ.ลำปลายมาศ ไปเป็นปีแค่คดีก็ยังไม่คืบ อดีตลูกจ้างแสบยังคงลอยนวล
ยายเพียง เล่าว่า เมื่อปี 2563 นางพิมพ์ พร้อมสามี และพ่อแม่รวม 4 คนได้มารับจ้างเลี้ยงหมูที่ฟาร์ม ซึ่งตนก็ดูแลอย่างดี ทั้งให้ที่พักอาศัย ให้ค่าจ้างเลี้ยงหมูรุ่นละ 50,000 บาท/คน หมูรุ่นหนึ่งก็จะเลี้ยงอยู่ราว 5 เดือน เฉลี่ยแต่ละคนก็จะได้ค่าจ้างเดือนละประมาณ 10,000 บาท พออยู่จนคุ้นเคยกัน นางพิมพ์ ก็เริ่มมาขอยืมเงินครั้งละหลักพันถึงหลักหมื่นบาท อ้างว่าเดือดร้อน และก็มายืมเรื่อยๆ รวมเป็นเงินกว่า 200,000 บาท
ไม่นานจากนั้นก็แนะนำให้ตนรู้จักกับนายแต อายุประมาณ 27 ปี โดยนางพิมพ์อ้างว่า นายแตและครอบครัวมีที่ดินเยอะ และเขาจะแบ่งขายที่ดินให้ในราคาถูก ด้วยความไว้ใจเห็นว่านางพิมพ์เป็นลูกจ้างที่อยู่กันมานานจึงหลงเชื่อ ตกลงซื้อที่ดิน
ครั้งแรก บอกว่าที่ดิน 9 ไร่ ขายให้ 50,000 บาท ซึ่งนางพิมพ์ ก็พานายแตมาเอาเงินที่ฟาร์ม แต่ตอนนั้นมีการทำเป็นหนังสือสัญญากู้ยืมไว้เป็นหลักฐานเพราะยังไม่ได้เอกสารสิทธิที่ดินที่ซื้อ โดยมีผู้ใหญ่บ้านเซ็นเป็นพยาน
ครั้งที่สอง บอกว่าจะขายอีก 13 ไร่ แต่ครั้งนี้นางพิมพ์มาเอาเงินสดกับตนที่ฟาร์ม 50,000 บาท บอกว่าเดี๋ยวจะไปโอนให้นายแตเอง ตนก็หลงเชื่ออีก หลังจากนั้นก็ทยอยมาหลอกเอาเงินอ้างว่าไปจ่ายค่าที่ให้นายแตอีกเรื่อยๆ รวมเป็นเงินกว่า 500,000 บาท!
ต่อมาปี 2564 ตนถามหา โฉนดที่ดิน ที่นางพิมพ์บอกว่าเอาเงินไปซื้อ กลับอ้างโน่นอ้างนี่ตลอด ไม่เคยได้เห็นโฉนดและที่ดิน
ญาติพี่น้องของยาย ก็เริ่มเอะใจว่ายายน่าจะถูกหลอก ยายจึงเรียกนางพิมพ์มาสอบถาม แต่นางพิมพ์ไม่ยอมรับ ทั้งแสดงอาการไม่พอใจและต่อว่ายายด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพ หลังจากนั้นยายจึงเลิกจ้างนางพิมพ์ และครอบครัวเลี้ยงหมูในฟาร์ม และไปแจ้งความที่ สภ.ลำปลายมาศ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนางพิมพ์ และพวก เมื่อช่วงกลางปี 2564 แต่จนถึงขณะนี้ผ่านมาเป็นปีแล้วคดีก็ยังไม่คืบหน้า จึงอยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวนางพิมพ์มาดำเนินคดี หรือมาพูดคุยไกล่เกลี่ยนำเงินที่หลอกเอาไปมาคืนก็ได้ เพราะเป็นเงินที่ยายเก็บสะสมจากการทำงาน
ใครโดนแบบนี้ก็คงช้ำใจไม่น้อยเหมือนยายนะคะ คนใกล้ตัวอยู่ด้วยกันจนไว้ใจ สุดท้ายสูญเงินเกือบล้าน!
โฉนดก็ไม่ได้จับ ที่ดินสักแปลงก็ไม่ได้เห็น คงต้องรอทางตำรวจติดตามคดีกันต่อไป หากไกล่เกลี่ยกันได้ ยายเพียงก็ยินดี