“ชัยวัฒน์” วีรบุรุษแก่งกระจาน กับวิบากกรรมที่ต้องเจอ

ย้อนดูเส้นทางชีวิต ของ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” วีรบุรุษแก่งกระจาน กับวิบากกรรมที่ต้องเจอ สู่บทสรุปคดีบิลลี่

ผ่านไป 9 ปี คดียังไม่จบค่ะ ชื่อ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” หรือ “อี่” กับภาพจำในชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ กลับมาอยู่ในหน้าสื่ออีกครั้ง เนื่องจากวันนี้ (28 ก.ย.66) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อท.166/2565 ที่อัยการ โจทก์ ยื่นฟ้อง นายชัยวัฒน์ กับพวก รวม 4 คน ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ กรณีการหายตัวไปของนายบิลลี่ พอละจี 

ชัยวัฒน์ พ้นผิด คดีบิลลี่ แต่ไม่รอด 157 จำคุก 3 ปี ไม่ต้องรอลงอาญา!

โดยล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีคำสั่ง ลงโทษ จำคุก “ชัยวัฒน์” 3 ปี ไม่รอลงอาญา กรณีที่ไม่นำตัว “บิลลี่” ไปส่งพนักงานสอบสวน ส่วนเจ้าหน้าที่อีก 3 นาย ศาลได้ยกฟ้อง ซึ่ง 9 ปี กับคดีนี้ ยังไม่ใช่ทั้งหมดที่ “ชัยวัฒน์” เจอค่ะ เพราะกว่าจะมาถึงวันนี้ ไม่ธรรมดาและไม่ได้ราบรื่นเลย  

รู้จัก “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ผู้พิทักษ์ผืนป่าแก่งกระจาน

ย้อนกลับไปในปี 2554 ชัยวัฒน์ เป็นที่รู้จักของกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนและสังคม เมื่อเขานำกำลังกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าไปอพยพชาวกะเหรี่ยง และเผาทำลายที่พักอาศัยของชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย (ใจแผ่นดิน) อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพื่อผลักดันออกจากผืนป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 

จนทำให้ปู่คออี้ มีมิ หรือ นายโคอิ มีมิ ผู้จิตวิญญาณของชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจานและกลุ่มกะเหรี่ยงในพื้นที่ต้องออกมาประท้วง และยื่นฟ้องชัยวัฒน์ ต่อศาลปกครองในข้อหาบุกรุกเผาบ้านใจแผ่นดิน 

ในปีเดียวกัน ก็ได้เกิดเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ชัยวัฒน์ เป็นทัพหน้า นำลูกน้องเข้าไปบุกป่าฝ่าดง เพื่อเช่วยกู้เฮลิคอปเตอร์และผู้เสียชีวิต จนได้รับมอบประกาศ นียบัตรแก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2554 จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จนได้รับฉายา “วีรบุรุษแก่งกระจาน” 

ต่อมา ปี 2557 ชัยวัฒน์ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีการหายหัวไปของ “บิลลี่” หรือ พอละจี รักจงเจริญ แกนนำชาวกะเหรี่ยงบางกลอย-โป่งลึก อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่หายตัวไปเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2557 โดย ชัยวัฒน์ยอมรับว่า เขาควบคุมตัวของบิลลี่ในข้อหาครอบครองน้ำผึ้งป่าอย่างผิดกฎหมาย และได้ปล่อยตัวบิลลี่ในวันเดียวกัน แต่ก็ไม่พบตัวของนายบิลลี่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 

คดียังไม่จบ! “บิลลี่ พอละจี” หายตัว 9 ปี ลุ้นคำพิพากษา 28 ก.ย.66

ปี 2561 ดีเอสไอรับคดีการหายตัวไปของบิลลี่ เป็นคดีพิเศษจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และเมื่อปี 2562 ดีเอสไอ เปิดเผยหลักฐานสำคัญเชื่อมโยงการหายตัวไปของบิลลี่ คือกระดูกกระโหลกของมนุษย์ในถังน้ำมัน 200 ลิตร ที่จมอยู่ในน้ำบริเวณสะพานแขวนเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน และต่อมา ศาลอนุมัติหมายจับชัยวัฒน์ และพวกในคดีการหายตัวของบิลลี่ ในฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 

วันที่ 13 ม.ค. 2563 ชัยวัฒน์ ได้เดินทางยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ร้องขอความเป็นธรรมอัยการในการสั่งคดี ต่อมาวันที่ 24 ม.ค.63 อัยการฝ่ายคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องชัยวัฒน์ กับพวกข้อหาฆ่าบิลลี่ โดยสั่งฟ้องเฉพาะข้อหาเป็นเจ้าหน้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 

วันที่ 27 ม.ค.63 มึนอ พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาของนายบิลลี่ได้เข้ามาร่วมรับฟังการชี้แจงของสำนักงานอัยการสูงสุด และได้ยื่นหนังสือต่อนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (รองโฆษกอสส.) เพื่อขอให้ชี้แจงเหตุผลที่อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องชัยวัฒน์ และหลังจากนั้นดีเอสไอมีความเห็นแย้งไปยังอัยการสูงสุด เพื่อเดินหน้าคดีต่อไป 

วันที่ 26 มี.ค. 2564 คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มีมติให้ปลด นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ออกจากราชการ หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ชี้มูลความผิด ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา โดยการเผาทำทำลายทรัพย์สินของชาวบ้านบางกลอย ทำให้ต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ไป 1 ปี 

ต่อมาวันที่ 15 ส.ค. 2565 สำนักงานอัยการสูงสุด มีหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้องชัยวัฒน์ และพวก ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง  

และล่าสุดวันนี้ (28 ก.ย.66) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ก็ได้มีคำสั่ง ลงโทษ จำคุก “ชัยวัฒน์” 3 ปี ไม่รอลงอาญา ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา กรณีที่ไม่นำตัว “บิลลี่” ไปส่งพนักงานสอบสวน  

อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้า ‘อีจัน’ จะรีบแจ้งให้ทราบทันทีค่ะ 

คลิปอีจันแนะนำ
วิญญาณผู้พิทักษ์ กำลังใจส่งถึง ชัยวัฒน์