ปรับแผนรักษาน้องเดือน ไม่ผ่าตัด แต่ใส่เฝือกแทน

วันนี้ (16 พ.ย. 66) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รายงานอาการของ น้องเดือน ลูกช้างป่าทับลาน ที่พลัดหลงจากโขลง บริเวณอุทยานแห่งชาติทับลาน เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา อาการตอนนี้พบว่า ลูกช้างป่ายังคงมีอาการปวดขาหลัง มีความไวต่อสิ่งแวดล้อม และมีความอยากเดินบ่อยครั้ง สัตวแพทย์ได้มีการพันผ้าซัพพอร์ตขาหลัง ใช้อุปกรณ์พยุงตัว เพื่อให้ทิ้งน้ำหนักลงดินน้อยที่สุด และยังคงดำเนินการรักษาตามโปรแกรม โดยให้ยารักษา เสริมแคลเซียม วิตามินซีและผงไบโอติก รวมถึงทำการใช้เครื่องปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อลดอาการปวดให้แก่ลูกช้าง

ในส่วนของแนวทางการรักษากระดูกที่แตกหัก วานนี้(15 พ.ย. 66) นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เผยว่า จะมีการปรับเปลี่ยนแผนการรักษากระดูกขาหลังที่แตกหัก จากเดิมที่จะมีการดำเนินการผ่าตัดซ่อมแซมกระดูกขาซึ่งต้องเคลื่อนย้ายลูกช้าง ไปทำการผ่าตัด ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน นั้น ได้รับรายงานจากทีมสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญว่า จะมีการเปลี่ยนวิธีการรักษาเป็นการ “ใส่เฝือก” เนื่องจากมีการประเมินอาการลูกช้างป่า พบว่าลูกช้างยังคงมีอาการปวดขาหลัง และยังมีร่างกายที่ไม่สมบูรณ์พร้อมสำหรับการผ่าตัด ถึงแม้การใส่เฝือกจะไม่ใช่วิธีการรักษาที่ดีที่สุด แต่เป็นวิธีที่สามารถดำเนินการได้เร็วและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของเจ้าพลายเดือนมากที่สุดในขณะนี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อลูกช้างเนื่องจากไม่ต้องมีการเคลื่อนย้ายไปรักษาที่อื่น การผ่าตัดในลูกช้างถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ ที่มีความเสี่ยงสูงในทุกขั้นตอนของการรักษา รวมถึงการเตรียมการผ่าตัดจะต้องสั่งทำอุปกรณ์พิเศษ ซึ่งใช้เวลานาน 5-7 วัน ซึ่งอาจจะช้าเกินไปสำหรับการรักษาลูกช้างป่านี้ ดังนั้นการรักษาโดยการใส่เฝือกจึงเป็นวิธีที่จะทำให้ลูกช้างได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด

การรักษาโดยการใส่เฝือกนี้ ทีมสัตวแพทย์จากโรงพยาบาลสัตว์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิมยาเขตกำแพงแสน, สถาบันคชบาลแห่งขาติ ในพระอุปถัมภ์ จังหวัดลำปาง และองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย จะเดินทางเข้าประเมินสภาพร่างกายลูกช้าง และวางแผนใส่เฝือกในวันพรุ่งนี้ ระหว่างรอการใส่เฝือก ทางทีมแพทย์ได้เฝ้าติดตามดูแลอาการของพลายเดือนอย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมร่างกายเพื่อเข้ารับการรักษาต่อไป เป็นกำลังใจให้น้องเดือนนะคะ