ปวีณาพาหญิง 25 พบกงสุลหาทางช่วยสามีและเพื่อน ถูกหลอกไปทำคอลเซ็นเตอร์

มูลนิธิปวีณาฯ พาหญิง 25 ปี พบกงสุลประสานช่วยสามีและเพื่อนที่ถูกขังในตึก เพราะถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์เมืองเล้าไก่ ประเทศเมียนมา

หลังหญิงอายุ 25 ปี เข้าร้องมูลนิธิปวีณาฯ ว่า สามี ถูกหลอกไปทำงานที่เมืองเล้าไก่ ประเทศเมียนมา ถูกบังคับให้สามีทำงานคอลเซ็นเตอร์  

 วันนี้(03ส.ค.66) เวลา 16.00 น. ทางมูลนิธิปวีณาได้พาครอบครัว เหยื่อเข้าพบอธิบดีกรมการกงสุล นายรุจ ธรรมมงคล เพื่อเร่งหาแนวทางช่วยเหลือหลังมีหญิงอายุ 25 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่านายนนท์ (นามสมมุติ) สามี อายุ 25 ปี ถูกหลอกไปทำงานที่เมืองล๊อกกิ่ง หรือ เล้าไก่ ประเทศเมียนมา บังคับให้สามีทำงานคอลเซ็นเตอร์ สร้างเฟซบุ๊กปลอมหลอกคนไทยลงทุนเทรดหุ้น

ซึ่งทางด้านนายรุจ อธิบดีกลมการกงสุลจะเร่งแจ้งให้ทาง ทางการเมียนมารับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น และหาวิธีช่วยเหลือคนไทยที่อยู่ในตึกดังกล่าว และยังบอกอีกว่าที่นั้นเป็นเขตปกครองพิเศษจึงต้องใช้เวลาในการช่วยเหลือ 

 และเตือนอย่าหลงเชื่อคนที่ชวนไปทำงานต่างประเทศแม้จะให้ยอดเงินที่สูงก็ต้องตรวจสอบให้ดูหรือหาผ่านทางกรมการจัดหางานเพื่อความปลอดภัย 

ซึ่งเหตุการณ์ก่อนหน้านี้สามีทำงานอยู่ร้านสมาร์ทโฟนแห่งหนึ่งและมีความรู้เรื่องเทรดหุ้น ได้พบเห็นโฆษณาทางเฟซบุ๊ก โดยบริษัทเอเจนซี่แห่งหนึ่งอ้างว่าต้องการคนมีความสามารถเรื่องเทรดหุ้น รายได้ 3 หมื่นบาทต่อเดือน ไม่รวมคอมมิชชั่น ที่พัก-อาหารฟรี ทำสัญญา 3 เดือน จากนั้นสามีก็ได้ติดต่อทางไลน์ โดยเอเจนซี่สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการให้สามีไปทำวีซ่า ตรวจสุขภาพ และทำสัญญาจ้างงานวันที่ 5 ก.ค.66 

จากนั้นวันที่ 6 ก.ค.66 สามีเดินทางไปโดยนั่งเครื่องบินที่ดอนเมืองไปลงที่เมืองลาเซียว ประเทศเมียนมา ก่อนจะมีรถมารับไปส่งที่เมืองล๊อกกิ่ง ซึ่งก็ยังติดต่อกับสามีได้ตลอด แต่พอไปถึงวันที่ 7 ก.ค. สามีขาดการติดต่อไปหลายวัน วันที่ 9 ก.ค. ตนจึงไปแจ้งความไว้ที่สน.พหลโยธิน ต่อมาวันที่ 10 ก.ค. สามีได้ปลอมเฟซบุ๊กส่งข้อความมาขอความช่วยเหลือ เล่าว่า ถูกกักขังอยู่ในตึกแห่งหนึ่งในเมืองล๊อกกิ่ง และถูกบังคับให้ทำงานคอลเซ็นเตอร์ สร้างเพจปลอมหลอกคนไทยชวนลงทุนเทรดหุ้น ต้องทำงานเวลา 09.30-03.00 น.ของอีกวัน ถูกยึดโทรศัพท์มือถือไม่ให้ติดต่อกับคนภายนอก และไม่มีกำหนดกลับ พบเห็นการทำร้ายร่างกายคนไทยที่ไม่ยอมทำงาน มีคนไทยติดอยู่ที่นั่นอยู่กว่า 300 คน ในตึกมีคนคุมตลอดเวลา ด้านนอกตึกมีทหารถือปืนยืนคุมอยู่ 

 นอกจากนี้สามียังบอกอีกว่า ข้อความที่ส่งมาให้อ่านอย่างเดียวไม่ต้องตอบ ข้อความที่คุยกันให้แคปรูปไว้เพราะต้องลบออกให้หมด ก่อนหน้านี้มีคนพลาดถูกจับได้ว่าแจ้งเรื่องไปขอความช่วยเหลือคนนั้นถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนัก ตอนนี้ไม่รู้ว่าสามีตนจะเป็นอย่างไรบ้าง ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย