จากกรณีที่นักแสดงชื่อดัง มาริโอ้ เมาเร่อ ได้ซื้อรถยนต์คลาสสิคไว้ในครอบครอง ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าว ต้องสงสัย สวมทะเบียนรถ โดยมาริโอ้ยืนยัน ว่าตนเองก็เป็นผู้เสียหายถูกหลอก
ตำรวจไซเบอร์ จึงเรียกให้นักแสดงหนุ่มมาให้ปากคำเพิ่มเติม ในฐานะผู้เสียหาย
มาริโอ้ เตรียมหอบหลักฐาน แจงปม ซื้อรถคลาสสิคในวันนี้ (9 ส.ค 66) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. มาริโอ้ได้เดินทางมาที่ บช.สอท. และได้ขึ้นตึกจากลานจอดรถชั้นใต้ดิน โดยไม่ได้ผ่านจุดที่สื่อมารอ
หลังจากที่ให้ปากคำเสร็จ มาริโอ้ได้ตอบคำถามสื่อขณะเดินออกจากห้องให้ปากคำ ว่า วันนี้มาให้ปากคำในฐานะพยาน ไม่รู้สึกกังวลอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย และได้เดินลงลิฟต์กลับทันที
ต่อมา พลตำรวจตรี อำนาจ ไตรพจน์ รองผู้บัญชาการ สอท. ได้ลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ ว่า
วันนี้มาริโอ้ได้มาให้ปากคำในฐานะ พยาน วันนี้เรียกพยานมาทั้งหมด 3 คน ทั้ง 3 คน เป็นผู้ครอบครองรถทั้งหมด
คนหนึ่งเป็นรุ่นพี่ที่ขายรถใหักับมาริโอ้ รู้จักมา 2-3 ปี ส่วนอีกคนเป็นพี่ชายของคนที่รุ่นพี่
ตัวพี่ชายอยู่ในระหว่างสอบสวน ต้องดูรายละเอียดหลังสอบเสร็จอีกที
จากการสอบสวนเชื่อว่า มาริโอ้ ไม่รู้ เพราะมีการซื้อมาจากรุ่นพี่ เคยมีการซื้อขายเฟอร์นิเจอร์เก่าด้วยกันหลายครั้ง หลังจากนั้น รุ่นพี่คนนี้ได้มีการเสนอขายรถ
ส่วนตัวมาริโอ้สนใจด้านนี้อยู่แล้ว เลยตกลงซื้อในราคา หนึ่งล้านห้าแสนบาท ซึ่งได้ตกลงทำสัญญาซื้อขาย ได้มัดจำไป ห้าแสนบาท และจะส่งมอบรถกันภายใน 60 วัน พอครบวัน ก็ยังไม่ได้รถ เลยยกเลิกสัญญา และคืนเงินกัน
หลังจากนี้ตำรวจจะรวบรวมคำให้การของมาริโอ้ และพยานคนอื่นๆ รวมทั้งหลักฐานที่มีอยู่ มาประชุมกับพนักงานสอบสวนว่ามีความคิดเห็นยังไง มีความน่าเชื่อถือไหม
ในขั้นตอนแรกได้ดำเนินคดีกับคนที่เปลี่ยนแปลงข้อมูลทางทะเบียนแล้ว 2 คน แต่ก็ต้องเรียกคนที่มีชื่อทั้งหมด 65 รายมาสอบสวน ว่าใครมีส่วนการกระทำความผิดหรือไม่